บมจ.ทางด่วนกรุงเทพ (BECL) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2551 คณะอนุญาโตตุลาการได้มีคำชี้ขาดข้อพิพาทให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.)ชำระเงินส่วนแบ่งรายได้ค่าผ่านทางของทางด่วนโครงข่ายในเขตเมืองให้แก่บริษัทฯ สำหรับช่วงเวลาระหว่างวันที่ 13 พฤศจิกายน 2535 ถึงวันที่ 2 กันยายน 2536 รวมเป็นเงิน 1,974,638,648 บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยในอัตราที่กำหนดในสัญญาจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2544 เป็นเงิน 1,856,840,006 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3,831,478,654 บาทและดอกเบี้ยนับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2544 เป็นต้นไป จนกว่า กทพ. จะชำระให้บริษัทฯ เสร็จสิ้น
ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ พ.ศ. 2545 บริษัทฯ สามารถยื่นคำร้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจภายใน 3 ปี นับแต่วันที่อาจบังคับตามคำชี้ขาดได้เพื่อให้ศาลทำการบังคับตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ในขณะที่ กทพ. อาจขอให้ศาลเพิกถอนคำชี้ขาดได้ โดยยื่นคำร้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจภายใน 90 วันนับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำชี้ขาด
อนึ่ง BECL ได้ก่อสร้างทางพิเศษศรีรัชในพื้นที่ส่วนแรกแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2535 ซึ่งตามสัญญากำหนดว่าวันที่มีการก่อสร้างในพื้นที่ส่วนแรกแล้วเสร็จถือว่าเป็นวันเปิดใช้งานของพื้นที่ส่วนแรก และบริษัทฯ มีสิทธิได้รับส่วนแบ่งรายได้ค่าผ่านทางของทางด่วนโครงข่ายในเขตเมืองตั้งแต่วันดังกล่าวเป็นต้นไป
แต่ กทพ.ได้เริ่มแบ่งรายได้ค่าผ่านทางให้บริษัทฯ เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2536 ทำให้บริษัทฯ สูญเสียรายได้ที่ควรได้รับตามสัญญา บริษัทฯ จึงได้ยื่นคำเสนอข้อพิพาทต่อคณะอนุญาโตตุลาการเรียกร้องให้ กทพ. ทำการชดเชยรายได้ค่าผ่านทางของทางด่วนโครงข่ายในเขตเมืองระหว่างวันที่ 13 พฤศจิกายน 2535 ถึงวันที่ 2 กันยายน 2536 พร้อมดอกเบี้ยตามสัญญาข้อ 25.6 ให้แก่บริษัทฯ