นายธนา เธียรอัจฉริยะ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) เชื่อว่าตลาดโทรศัพท์มือถือในปี 52 ถือว่าถึงจุดอิ่มตัว 100% แล้ว ซึ่งธุรกิจนี้จะมีทิศทางเป็นอย่างไรย่อมขึ้นอยู่กับยุทธศาสตร์ของผู้ให้บริการแต่ละราย เช่น ปีนี้ทรูมูฟคงจะเน้นในเรื่องของ iPhone และ 3G, ส่วนเอไอเอสเน้นไปที่กลยุทธ์สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า(CRM) และการลดแลกแจกแถม
ขณะที่ดีแทคเองจะหันไปเน้นการสนองตอบความต้องการของลูกค้ากลุ่มย่อยมากขึ้น โจทย์ปีนี้คือการหาไอเดียใหม่แต่ใช้เงินให้น้อยที่สุด เนื่องจากคาดว่าปีนี้งบประมาณด้านการตลาดจะปรับลดลงจากปีก่อนราว 10-15%
"เราจะพยายามดูแลลูกค้ารายย่อย ทำ micro management เริ่มทำงานแบบลงรายละเอียดความต้องการของลูกค้าให้มากขึ้น และการหาของดีที่มีอยู่แล้วมาใช้ เช่น Inter Roming หรือการใช้ Data Warehouse" รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DTAC ระบุ
โดยเชื่อว่ายังพอมีช่องทางที่จะทำตลาดในลูกค้ากลุ่มย่อยได้อีกแม้ตลาดมือถือปีนี้จะถึงจุดอิ่มตัวแล้วก็ตาม เนื่องจากปัจจุบันพบว่ามียอดลูกค้าที่ออกจากระบบของทุกค่ายที่ให้บริการรวมกันแล้วอีก 3-4 ล้านราย ซึ่งบริษัทอาจจะลองศึกษาเทียบเคียงกับกลยุทธ์ของธนาคารพาณิชย์ที่ให้บริการบัตรเครดิตว่ามีกลยุทธ์อย่างไรถึงสามารถจูงใจให้ลูกค้าถือบัตรเครดิตมากกว่า 1 ใบ
นอกจากนั้นการทำตลาดปีนี้จะให้ความสำคัญกับไอเดียเป็นตัวตั้งก่อน และจะพยายามสต็อกไอเดียเก็บไว้ให้มากขึ้น แต่ไอเดียดังกล่าวที่จะนำออกมาใช้เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดจะยังอยู่บนพื้นฐานของการให้บริการที่รองรับเทคโนโลยีในระดับปัจจุบันมากกว่า โดยบริษัทจะยังไม่เน้นเรื่อง 3G มากนัก เพราะเชื่อว่าฐานลูกค้าในระบบ 3G ยังมีไม่มาก
"เราคงมี idea บนพื้นฐานของเทคโนโลยีปัจจุบันไปก่อน เพราะตอนนี้ 3G ยังไม่ไปไหน ลูกค้าก็ยังมีน้อย ต้องใช้เวลาอีกสักระยะ" นายธนา ระบุ
นายธนา กล่าวว่า ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจไม่ดีเช่นนี้บริษัทมียอดหนี้เสียอยู่ประมาณ 5% ในส่วนของลูกค้า Postpaid หรือคิดเป็นเพียง 2% ของรายได้รวม ซึ่งไม่ถือว่าเป็นปัญหามากเพราะหนี้ดังกล่าวไม่ใช่ในรูปของตัวเงินจริงแต่เป็นหนี้อากาศ และหนี้เสียดังกล่าวก็มีแนวโน้มลดลงจากช่วงก่อนหน้านี้ เนื่องจากในช่วงหลังกลยุทธ์การแจก SIM ฟรีเริ่มน้อยลงแล้ว