ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ (22 ม.ค.) หลังจากมีข่าวว่าไมโครซอฟท์เตรียมลดจำนวนพนักงานเพราะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลเรื่องการขาดทุนของธนาคารพาณิชย์ทั่วโลก
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วง 105.30 จุด หรือ 1.28% แตะที่ 8,122.80 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 12.74 จุด หรือ 1.52% แตะที่ 827.50 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดร่วง 42.58 จุด หรือ 2.76% แตะที่ 1,465.49 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.56 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 7 ต่อ 2 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.33 พันล้านหุ้น
สก็อต ฟูลแมนน์ นักวิเคราะห์จากดับเบิ้ลยูเจบี แคปิตอล กรุ๊ป กล่าวว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันอย่างหนักหลังจากไมโครซอฟท์ คอร์ป ผู้ผลิตซอฟท์แวร์รายใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศว่าจะลดพนักงาน 5,000 ตำแหน่งในอีก 18 เดือนข้างหน้า ซึ่งจะเป็นการลดพนักงานครั้งแรกเพื่อลดต้นทุนในยามที่ความต้องการซอฟท์แวร์หดตัวลง
การเปิดเผยครั้งนี้มีขึ้นหลังจากบริษัทรายงานตัวเลขกำไรไตรมาสสี่ร่วงลง 11% นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยอมรับว่าบริษัทยังไม่สามารถคาดการณ์ตัวเลขกำไรในปีนี้ได้เนื่องจากตลาดซอฟท์แวร์ผันผวนมาก
ภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยบีบให้ไมโครซอฟท์ต้องลดต้นทุน เนื่องจากยอดขายหดตัวลง และอาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 โดยคาดว่าธุรกิจวินโดว์สอาจจะทำรายได้ลดลงหลังจากที่ยอดการจัดส่งพีซีขยายตัวช้าที่สุดในรอบ 6 ปี
นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่บ่งชี้ถึงภาวะตกต่ำในตลาดแรงงาน โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นสู่ 589,000 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา และตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านร่วงลง 15.5% เหลือเพียง 550,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายในตลาดซบเซาลงหลังจากนายจอห์น เธน อดีตซีอีโอของเมอร์ริล ลินช์ ประกาศลาออกจากแบงก์ ออฟ อเมริกา หลังธนาคารได้รับเงินทุนจากรัฐบาล 2 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อช่วยแบกรับการขาดทุนของเมอร์ริล ลินช์
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขกำไรไตรมาส 4 ของบริษัท อเมริกัน เอ็กซ์เพรส (เอเม็กซ์) ซึ่งเป็นบริษัทบัตรเครดิตรายใหญ่ของสหรัฐ จะทรุดลงไปถึง 73% เหลือเพียง 227.7 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากตัวเลขว่างงานที่พุ่งสูงขึ้นส่งผลให้ผู้บริโภคผิดนัดชำระหนี้มากขึ้นด้วย และคาดว่าบริษัท แคปิตอล วัน ไฟแนนเชียล คอร์ป ซึ่งเป็นคู่แข่งของเอเม็กซ์จะรายงานตัวเลขกำไรที่หดตัวลง 23% เหลือเพียง 172.8 ล้านดอลลาร์ด้วยเหตุผลเดียวกัน
นักลงทุนจับตาดูรายชื่อคณะรัฐมนตรีของบารัค โอบามาอย่างใกล้ชิด หลังจากมีรายงานว่า ทิโมธี ไกธ์เนอร์ ซึ่งโอบามาหมายมั่นให้นั่งตำแหน่งรมว.คลัง ยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนในวุฒิสภา เนื่องจากไกธ์เนอร์มีชนักติดหลังเรื่องการหลบเลี่ยงภาษีสมัยที่เขาทำงานให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ในปี 2544-2547