นายรักพงศ์ ไชยศุภรากุล ผู้จัดการฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจและกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะอ่อนตัวลงในกรอบแคบ ๆ ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่จะปรับตัวลง โดยคาดว่าจะมีแรงขายทำกำไรออกมา ภายหลังจากที่ตลาดไม่ได้มีปัจจัยบวกอย่างแท้จริง อีกทั้งผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯก็ยังออกมาไม่ดี และข้อมูลทางด้านเศรษบฐกิจในเรื่องของตัวเลขการตกงานก็มีเพิ่มขึ้นกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
ส่วนปัจจัยในประเทศไม่ได้มีนัยสำคัญในช่วงนี้ และตลาดบ้านเราในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าแข็งแกร่งกว่าตลาดเพื่อนบ้านมาหลายวัน แต่วอลุ่มเทรดค่อนข้างจะบาง และต่างชาติก็ยังขายสุทธิอีกแม้จะไม่มากก็ตาม โดยยังคาดว่าหากมีแรงขายออกมานักลงทุนในประเทศเองก็จะเข้าไปรับไว้
พร้อมให้แนวรับ 433 จุด แนวต้าน 442 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(22 ม.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 8,122.80 จุด ลดลง 105.30 จุด(-1.28%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 827.50 จุด ลดลง 12.74 จุด(-1.52%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 1,465.49 จุด ลดลง 42.58 จุด (-2.76%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 528.23 ล้านบาทเมื่อวานนี้
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน มี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ที่ 43.67 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.12ดอลลาร์
- รัฐบาลเปิดสามออปชั่น ช่วยคนตกงานจ่าย 2 หมื่นบาทต่อหัว เป็นเวลา 4 เดือน ตั้งเป้าถึงสิ้นเดือนต.ค. ดึงคนเข้าร่วมโครงการได้ 2.4 แสนราย ด้าน สศช.หนุนแจกเงิน 2 พันบาทต่อราย กระตุ้นเศรษฐกิจ หลังพบการใช้กำลังการผลิตลดลงเหลือ 61.2% ต่ำสุดในรอบ 5 ปี ส่งผลรายได้แรงงานภาคอุตสาหกรรมลดลง 5-9 หมื่นล้านบาทต่อปี ส่งผลการบริโภค-การลงทุนเอกชนหดตัว
- รมว.คลัง จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี เห็นชอบร่างพ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และร่างพ.ร.บ.ภาษีมรดก ตามที่สำนักงานคณะกรรมการเศรษฐกิจการคลัง เสนอแนะ ก่อนส่งรัฐสภาเพื่อพิจารณาต่อไป
- การประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ(กกร.)ในวันนี้ จะเสนอสินค้าเกษตร 2 รายการ คือ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และมันสำปะหลังเข้ามาอยู่ในบัญชีควบคุม เพื่อใช้มาตรการทางกฎหมายดูแล โดยจะกำหนดหลักเกณฑ์ให้จังหวัดที่ติดพื้นที่ชายแดนห้ามเคลื่อนย้ายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และมันสำปะหลัง หากจะเคลื่อนย้ายต้องขออนุญาตกับเจ้าหน้าที่รัฐก่อน
- ผลสำรวจซีอีโอ 130 บจ. 31% ประเมินจีดีพีมีโอกาสโต 0% ถึงติดลบ 3% ชี้ปัจจัยเสี่ยงอันดับแรกคือ เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ตามด้วยความกังวลเสถียรภาพการเมือง 70% เหตุส่งออกแย่ลง "กอบศักดิ์" ระบุภาคเอกชนมองเลวร้ายกว่าการคาดการณ์ของภาครัฐ ขณะเดียวกันส่วนใหญ่ 46% มองอายุของรัฐบาลเกิน 1 ปี เผย 3 อันดับนโยบายที่ต้องการให้รัฐบาลดำเนินการคือ เมกะโปตเจค-เสถียรภาพการเมือง-ปัญหาสภาพคล่อง