บมจ.การบินไทย(THAI)ตั้งเป้าหมายสร้างกำไรเพิ่มขึ้นเป็น 1.5 หมื่นล้านบาทภายใน 3 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวขึ้น ประกอบกับการปรับกลยุทธทางธุรกิจของบริษัทที่เน้นการลดรายจ่ายเพื่อให้ผ่านพ้นช่วงภาวะวิกฤติเศรษฐกิจในขณะนี้ ในปีนี้บริษัทคาดว่ารายได้จากการขายตั๋วโดยสารจะลดลงจากปีก่อนที่น่าจะทำรายได้ราว 1.6-1.7 แสนล้านบาท จากผลกระทบวิกฤติเศรษฐกิจทำให้บริษัทขาดสภาพคล่อง ขณะนี้บริษัทกำลังหาแนวทางแก้ปัญหา โดยจะเน้นการลดค่าใช้จ่าย ซึ่งบริษัทจะย้ายบริการผู้โดยสารทั้งหมดจากสนามบินดอนเมืองกลับไปรวมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิในวันที่ 29 มี.ค.52
นอกจากนั้น บริษัทได้พยายามหาเงินกู้เข้ามาเสริมสภาพคล่อง โดยยังเหลืออีก 1.2 หมื่นล้านบาทที่กำลังหาแหล่งเงินอยู่ คาดว่าอาจจะเป็นการออกหุ้นกู้หรือกู้จากสถาบันการเงิน ขณะที่ชะลอปรับเงินเดือนพนักงานประจำปีเพื่อรอประเมินผลประกอบการของบริษัทในช่วงไตรมาส 1/52 ก่อน
พล.อ.อ.ณรงค์ศักดิ์ สังขะพงษ์ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ THAI กล่าวว่า ในภาวะเช่นนี้บริษัทมีนโยบายลดค่าใช้จ่าย จึงจะย้ายการให้บริการจากสนามบินดอนเมืองมารวมอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิเพียงแห่งเดียว โดยมีข้อยุติว่าจะย้ายในวันที่ 29 มี.ค.52 ซึ่งเป็นการเริ่มตารางบินในฤดูร้อน และเป็นการสนองนโยบายของรัฐบาลที่สนับสนุนให้มี Single Airport
ขณะเดียวกัน ยังได้ปรับลดค่าพาหนะของฝ่ายบริหารลง 50% เป็นเวลา 6 เดือน ปรับลดค่าล่วงเวลา(โอที)ของพนักงาน และลดการจ้าง Outsource ส่วนเงินโบนัสได้สำรองไว้แล้ว แต่ขึ้นกับการพิจารณาของคณะกรรมการบริษัท รวมทั้งบริษัทยังไม่มีนโยบายจะปลดหรือลดพนักงาน ซึ่งถ้าจะทำถือว่าเป็นมาตรการสุดท้าย
บริษัทยังมีแผนเพิ่มรายได้ก็จะปรับเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินให้มากขึ้น เน้นการทำตลาด รวมทั้งมีธุรกิจใหม่ๆ เข้ามาเสริมด้วย
พล.อ.อ.ณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า รายได้ในตำแหน่งรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ที่ตนได้รับอยู่เดือนละ 150,000 บาทนั้น จะไม่ขอรับ เพื่อเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ ลงด้วย
นางงามนิตย์ สมบัติพิบูลย์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการเงินและบัญชี THAI คาดว่ารายได้จากการขายตั๋วโดยสารในปี 52 จะปรับลดลงจากปี 51 ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 1.6-1.7 แสนล้านบาท โดยบริษัทจะพยายามไม่ให้ผลประกอบการขาดทุนเหมือนปี 51 ที่แม้ว่า EBIDA จะไม่ได้ติดลบ แต่ที่มีผลขาดทุนเกิดจากรายการพิเศษ เช่น เงินลงทุน, ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน และผลขาดทุนจากการชดเชยการทำประกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน ซึ่งไม่ได้มากอย่างที่เป็นข่าว และขณะนี้บริษัทได้ทำประกันความเสี่ยงราคาน้ำมันอยู่ที่ 20% ของปริมาณการใช้น้ำมันอายุ 3-6 เดือน
ด้านเรืออากาศเอก มนตรี จำเรียง รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายทรัพยากรบุคคล THAI กล่าวว่า ขณะนี้การบินไทยได้ชะลอการปรับขึ้นเงินเดือนพนักงานประจำปีออกไป โดยขอรอดูผลประกอบการไตรมาส 1/52 ซึ่งในเดือนม.ค.นี้ ก็มีแนวโน้มเป็นบวก
"ถ้าไตรมาส 1 ผลประกอบการเราไปได้ดี เราก็จะปรับขึ้นเงินเดือนให้ จากที่ตอนนี้ชะลอไว้ก่อน"เรืออากาศเอกมนตรี ระบุ
ทั้งนี้ บริษัทได้สำรองเงินเดือนที่ปรับขึ้นไว้ในอัตรา 6.5% ในภาวะขาดทุน ตามระเบียบของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ซึ่งหากมีกำไรจะให้ปรับเงินเดือนขึ้นได้สูงกว่า 7.5% นอกจากนี้ผลจากการปรับลดโอทีสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างน้อย 2,000 ล้านบาท