นายสุวัฒน์ เหลืองวิริยะ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน(BWG) เชื่อว่า ทิศทางธุรกิจกำจัดขยะในปีนี้ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีถึงแม้เศรษฐกิจจะชะลอตัว และส่งผลให้มีโรงงานหลายแห่งปิดตัวลง เนื่องจากปัจจุบันมีโรงงานที่เข้าระบบกำจัดขยะอย่างถูกต้องเพียง 20% ของจำนวนโรงงานที่มีอยู่ทั่วประเทศเท่านั้น ส่วนที่เหลืออีก 80% ยังไม่ได้เข้าระบบกำจัดขยะที่ถูกต้อง และทั้งหมดก็เป็นโรงงานที่เป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในอนาคตของบริษัท
"แม้จะมีโรงงานปิดตัวลงไปบ้างก็ไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัทฯ ประกอบกับปัจจุบันรัฐบาลได้ให้การสนับสนุนให้โรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศกำจัดขยะเป็นระบบมากขึ้น ก็ยิ่งเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับบริษัทฯ ซึ่งทำให้ธุรกิจนี้ยังมีโอกาสเติบโตได้ดีในอนาคต ซึ่งปัจจุบันธุรกิจกำจัดขยะอุตสาหกรรมของบริษัทฯ ยังสามารถสร้างรายได้ในทิศทางที่ดี" นายสุวัฒน์ กล่าว
นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังมีแผนขยายฐานธุรกิจให้กว้างขวางขึ้น ด้วยการเพิ่มความหลากหลายให้กับกลุ่มลูกค้า โดยล่าสุดได้ให้ความสำคัญกับการกำจัดขยะในชุมชนเพิ่มเติมจากเดิมที่เน้นขยะอุตสาหกรรมเป็นหลัก ด้วยการลงนามในสัญญาโครงการก่อสร้างระบบกำจัดขยะมูลฝอยกับเทศบาลนครนครราชสีมา จ.นครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยโครงการดังกล่าวเป็นงานฟื้นฟู ออกแบบ และก่อสร้างระบบฝังกลบขยะมูลฝอยและระบบผลิตปุ๋ยอินทรีย์และผลิตไฟฟ้าที่สามารถรองรับขยะที่เข้ามาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เป็นเวลา 20 ปี คิดเป็นปริมาณขยะไม่น้อยกว่า 230 ตัน/วัน และ 83,950 ตัน/ปี มีมูลค่าโครงการ(รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) มูลค่า 412 ล้านบาท มีระยะเวลาการดำเนินโครงการ 852 วัน ทำให้สามารถรับรู้รายได้ทันทีตั้งแต่ปี 2552-2553
"การรับงานก่อสร้างระบบกำจัดขยะมูลฝอยของเทศบาล หรือขยะชุมชน ถือเป็นหนึ่งในแผนงานที่เพิ่มความหลากหลายให้กับธุรกิจ เพื่อเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ นำไปสู่การสร้างผลประกอบการที่แข็งแกร่งในอนาคต โดยบริษัทฯ มีแผนจะขยายธุรกิจกำจัดขยะออกไปสู่ภาคนอกอุตสาหกรรมมากขึ้น จากเดิมที่ธุรกิจหลักของบริษัทคือการกำจัดขยะในภาคอุตสาหกรรม ทั้งขยะที่เป็นอันตรายและไม่อันตราย ซึ่งจะทำให้ธุรกิจของบริษัทฯ ครบวงจร และมีฐานลูกค้ากว้างขวางขึ้น" นายสุวัฒน์ กล่าว
สำหรับความคืบหน้าของโครงการเตาเผาขยะอุตสาหกรรมบางปู ซึ่งเป็นเตาเผาขยะอันตรายที่เป็นเตาเผาอุณหภูมิสูงแห่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งบริษัท อัคคีปราการ จำกัด บริษัทย่อยของ BWG ได้รับสิทธิในการบริหารและประกอบการ จากกรมโรงงานอุตสาหกรรม เป็นระยะเวลา 20 ปี ขณะนี้ได้ซ่อมและปรับปรุงเสร็จแล้ว และสามารถเดินเครื่องในเชิงพาณิชย์ได้ ดังนั้นจะสามารถรับรู้รายได้อย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน
"มั่นใจว่าในปี 2552 รายได้ของบริษัทฯ จะยังเติบโตต่อเนื่องปี 2551 ได้ในอัตราไม่ต่ำกว่า 10% ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจจะอยู่ในช่วงชะลอตัว เนื่องจากสถานการณ์ดังกล่าวแทบจะไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัทฯ" นายสุวัฒน์ กล่าว