นายสุทธิชัย บุนนาค ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สำนักโทรทัศน์ บมจ.อสมท(MCOT)กล่าวว่า บริษัทเชื่อว่ายังมีโอกาสที่จะทำให้รายได้และกำไรในปีนี้เติบโตได้จากปีก่อน โดยเบื้องต้นประเมินว่าสภาวะเศรษฐกิจโลกจะไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศไทยมากอย่างที่กังวลกัน และอย่างน้อยรายได้และกำไรก็ยังน่าจะทรงตัวได้จากปี 51
สำหรับการพิจารณาปรับผังรายการคาดว่าจะเริ่มต้นขึ้นในเดือน มี.ค.-เม.ย. เพื่อรองรับการออกอากาศในช่วงมิ.ย.-ก.ค. 52 โดย MCOT พร้อมร่วมงานกับทุกผู้ผลิตรายการ ทุกค่าย แต่ต้องยอมรับว่าเวลามีจำกัด ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีการปรับผังรายการของบางบริษัทออกไปบ้าง
การปรับผังรายการในครั้งนี้ MCOT ยังเน้นนโยบายสังคมอุดมปัญญา ซึ่งประสบความสำเร็จมาต่อเนื่อง ขณะเดียวกันในช่วงก.พ.จะมีรายการบันเทิงเพิ่มมากขึ้น โดยจะมีละครใหม่ คือ อุบัติรักข้ามขอบฟ้า 2 เริ่มออกอากาศ 14 ก.พ. 52 เวลา 20.30-21.30 น.ของวันเสาร์-อาทิตย์ และจะมีรายการตามฤดูกาล(Seasonal Program) ได้แก่ "เดอะสตาร์"ที่จะเริ่มออกอากาศในช่วงเดือน ก.พ. นอกจากนี้ ยังมีเกมส์กลยุทธ์, ปั้นฝันสนั่นเวที และ อคาเดมี่ แฟนเทเชีย
“การมีละครช่วง 20.30 น. ไม่ได้ตั้งใจจะปรับกลยุทธ์เน้นละครเพื่อชนช่อง 3 หรือ 7 แต่เราจับกลุ่มวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ ที่คนละกลุ่มเป้าหมาย และยอมรับว่าจะเน้นบันเทิงเพิ่มมากขึ้น แต่ยังคงแฝงสาระ ส่วนรายได้และกำไรปี 51 ได้ตามเป้าหมายเนื่องจากมีโบนัสสูงซึ่งเนที่พอใจของพนักงาน อสมท มาก"นายสุทธิชัย กล่าว
*เตรียมเปิดรับสมัคร ผอ.ใหม่เร็ว ๆ นี้หลังปรับคุณสมบัติเล็กน้อย
นายสุทธิชัย กล่าวอีกว่า สำหรับการที่ตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ว่างลงนั้น ไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานของ MCOT แต่อย่างใด เนื่องจากบริษัทมีการแบ่งงานกันอย่างชัดเจนและเป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่มีระบบการทำงานที่ดีอยู่แล้วและขณะนี้อยู่ระหว่างการสรรหา โดยได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา ซึ่งมีนายธงทอง จันทรางศุ เป็นประธานฯ และคาดว่าเร็ว ๆ นี้จะเปิดรับสมัครผู้ที่มีความรู้ความสามารถ
อย่างไรก็ตาม คาดว่าการกำหนดคุณสมบัติจะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย อาทิ จากทีกำหนดว่าต้องเคยบริหารงานในองค์กรขนาดใหญ่ที่มีผลการดำเนินงานไม่ต่ำกว่า 1.5 พันล้าน จากเดิมที่กำหนดไว้ 1 พันล้านบาท ส่วนคนในองค์กรหากต้องการสมัครต้องเป็นระดับรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่เท่านั้น
แหล่งข่าวจาก MCOT กล่าวว่า ในการสรรหากรรมการผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่นั้นเดิมคาดว่าจะแล้วเสร็จทันกับการปรับผังรายการในช่วงต้นปี 52 แต่จากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองส่งผลให้การสรรหายังคงล่าช้า โดยล่าสุดได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาแล้ว คาดว่าจะเปิดรับสมัครได้ในเร็ว ๆ นี้ และไม่แน่ใจว่าจะทันต่อการพิจารณาผังรายการรอบใหม่ในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย.หรือไม่
ทั้งนี้ ตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่ MCOT มีการไม่แน่นอนสูงและต้องยอมรับว่าเกี่ยวโยงกับการเมือง เนื่องจาก MCOT เป็นรัฐวิสาหกิจ แม้ว่าจะแปรรูปเป็นบริษัทมหาชนแล้วก็ตาม
“การสรรหาคงเป็นเรื่องต้องใช้เวลา คนที่มาสมัครคงต้องคำนึงถึงสถานะ ความมั่นคงด้วย เพราะตำแหน่งมักเปลี่ยนตามรัฐบาล และคนที่มีความรู้ความสามารถไม่ค่อยกล้ามาสมัครตำแหน่งนี้ และการสรรหาโดยกระบวนการสรรหา ถือว่าชอบธรรมตามหลักการและกระบวนการคัดสรรแต่มักมีการเลือกคนที่มีความสัมพันธ์ทางการเมือง ซึ่งคน อสมท.ชิน และยอมรับว่าเป็นปกติของรัฐวิสาหกิจ"แหล่งข่าว กล่าว
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าว กล่าวต่อว่า ผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่ควรจะเป็นผู้ที่มีความสามารถในการบริหารสื่อทีวี ต้องสร้างสรรค์ความสำเร็จเพื่อองค์กร และรู้ถึงภูมิหลังของ MCOT ซึ่งเป็นพื้นฐานสื่อโทรทัศน์ที่สำคัญของประเทศ ต้องมีวิสัยทัศน์ความรู้ความสามารถ เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หากยังคงบริหารงานภายใต้ต้นทุนเดิมจากการเป็นรัฐวิสาหกิจจะไม่สามารถแข่งขันได้
สำหรับการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ยังไม่ได้ทำให้ MCOT เปลี่ยนแปลงมากนัก ไม่เหมือนในช่วงรัฐบาลก่อน ๆ ที่ผ่านมาที่บางครั้งมีการแสวงหาผลประโยชน์ที่มากเกินไป โดยนโยบายหลักที่รัฐบาลปัจจุบันให้มีเพียงการสนับสนุนการเป็นสื่อกลางให้ประชาชนในชาติสามัคคี ความสมานฉันท์ของคนในชาติ และประโยชน์สาธารณะ