น.ส.ปวีณา ศรีโพธิ์ทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการพัฒนาบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)กล่าวว่า การที่มีบริษัทจดทะเบียนขอเพิกถอน(delist)ออกจากตลาดหลักทรัพย์ไทยมากขึ้นมีหลายสาเหตุ ซึ่งเหตุผลหลักคือการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ และการลดค่าใช้จ่าย
อาทิ บมจ.จีเอ็มเอ็ม มีเดีย(GMMM) บมจ.กรุงเทพผลิตเหล็ก(BSI) และล่าสุด บมจ.ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น(MINOR) เชื่อว่าเป็นการปรับโครงสร้างทางธุรกิจที่ไม่ต้องการมีบริษัทจดทะเบียนที่ซ้ำซ้อนกันในตลาดหลักทรัพย์ อาทิ บมจ. จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่(GRAMMY) ก็ต้องการควบรวม GMMM เข้าไว้ด้วยกัน หรือ บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) และ MINOR ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการลดค่าใช้จ่ายด้วย
น.ส.ปวีณา ยอมรับว่า ฝ่ายบริษัทจดทะเบียนมีความเป็นห่วงเนื่องจากการสำรวจความคิดเห็นบริษัทจดทะเบียนมีหลายแห่งที่กังวล พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ใหม่ ซึ่งจะออกมาที่มีข้อกำหนดหลายประการที่บริษัทจดทะเบียนจำเป็นต้องชี้แจง และกฎระเบียบที่เคร่งครัดมากขึ้น อาจทำให้อึดอัดในการเป็นบริษัทจดทะเบียน อาทิ กฎเกณฑ์อำนาจหน้าที่ของกรรมการ ซึ่งมีการดูแลใกล้ชิดเพิ่มมากขึ้นจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)
"ทางตลาดฯ ก็ไม่อยากเห็นบริษัท delist ออกจากตลาดในปริมาณมาก และไม่ได้คาดว่าในปี 52 จะมี delist เยอะหรือไม่ เพราะจากการ survey ไม่มีบริษัทที่เปิดเผยความต้องการ delist แต่จะมีการประชุมภายในและแจ้งข่าวต่อตลาดฯ ครั้งเดียว"น.ส.ปวีณา กล่าว
ดังนั้น ฝ่ายบริษัทจดทะเบียนจะต้องทำความเข้าใจและชี้แจงบริษัทจดทะเบียนอย่างใกล้ชิด หากเกิดปัญหาในการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
นายวิเชฐ ตันติวานิช รองผู้จัดการสายงานศูนย์ระดมทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผยว่า เหตุผลส่วนหนึ่งที่บริษัทจดทะเบียน Delist ออกจากตลาดหุ้นอาจจะมาจากรายจ่ายที่ไม่คุ้มค่า และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องระดมเงินผ่านตลาด จึงมีการขอ delist ตัวเองออก แต่ก็ไม่ได้มีการประเมินว่าปีนี้จะบริษัทจดทะเบียนจะ delist กี่แห่ง