นายวีรพันธ์ พูลเกษ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น (TICON) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้า 5 ราย ในการสร้างโรงงานขนาดใหญ่ที่มีกว่า 1 หมื่นตร.ม.ต่อโรง ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างพื้นที่ขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับการสร้างโรงงานปกติที่จะใช้พื้นที่โรงงานละ 2-3 พันตร.ม.
ทั้งนี้ คาดว่าใน 2 เดือนข้างหน้านี้จะเห็นความชัดเจนได้ก่อน 1 โรงงาน ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการธุรกิจอาหารและมีผู้ผลิตชิ้นส่วนเครื่องบินที่เป็นการย้ายฐานการผลิตจากต่างประเทศมาผลิตที่ไทย ซึ่งเม็ดงานการลงทุนบริษัทจะเป็นผู้ลงทุนเองและให้เช่า 150 ล้านบาทต่อโรงงาน ระยะเวลาในการเช่าจะเป็นระยะยาว 10-15 ปี เพื่อลดความเสี่ยงจากเดิมที่จะใช้ระยะเวลาในการเช่าเพียง 3 ปี
นอกจากนี้ การสร้างโรงงานขนาดใหญ่ดังกล่าวจะเป็นการชดเชยโรงงานที่เห็นสัญญาณการเช่าลดลงจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ซึ่งผลกระทบดังกล่าวคงจะทำให้บริษัทชะลอการสร้างโรงงานสำเร็จรูปที่เกิดขึ้นใหม่ลดลงเหลือ 25 โรง จากปกติปีละ 50 โรง เงินลงทุนประมาณ 1.2-1.3 พันล้านบาท ซึ่งก็จะทำให้เม็ดเงินที่จะใช้ในการลงทุนลดลงไปด้วย อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการเช่ายังดีอยู่
นายวีรพันธ์ กล่าวว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้ผู้ประกอบการหลายรายได้รับผลกระทบซึ่งรวมถึงบริษัทด้วย ถึงแม้ผู้ประกอบการจะหันมาใช้วิธีการเช่าโรงงานแทนการลงทุนสร้างเอง อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ามีผู้ประกอบการบางรายคืนพื้นที่เช่า 1-2 โรง เนื่องจากผู้ประกอบการดังกล่าวมีหลายโรงอยู่แล้ว และต้องลดค่าใช้จ่ายลง และจากผลกระทบดังกล่าวจะทำให้การเติบโตในปี 52 คงจะทรงตัวหรือใกล้เคียงกับปีก่อน
ส่วนของ TICON—W3 คาดว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเพราะคนหันมาซื้อหุ้นเล็กแทนหุ้นใหญ่