นายณรงค์ ทัศนนิพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ซีฟโก้(SEAFCO)คาดว่า บริษัทจะมีกำไรในไตรมาส 4/51 และทั้งปีจะกลับมามีกำไร แม้ว่างวด 9 เดือนแรกของปีจะมีผลขาดทุนอยู่ประมาณ 7 ล้านบาทจากราคาน้ำมันและราคาเหล็กปรับตัวสูงขึ้นมาก แต่ในไตรมาส 4/51 ราคาต้นทุนทั้งสองประเภทเริ่มปรับตัวลดลง
สำหรับรายได้ของบริษัทในปี 52 จะใกล้เคียงปีก่อนที่ทำรายได้ 1.6 พันล้านบาท เพราะมีงานในมือ(Backlog)ยกมาจากปีก่อนราว 1.3 พันล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ในปีนี้ประมาณ 700-800 ล้านบาท พร้อมกันนี้ ยังมีงานใหม่ที่ประมูลได้แล้ว คือ งานของ กทม.ซึ่งเหลือรอเซ็นสัญญา 1 พันล้านบาทและงานภาคเอกชนที่คาดว่าจะเข้าร่วมประมูลในปีนี้ประมาณ 1 พันล้านบาท โดยตั้งเป้าว่าจะได้อย่างน้อย 40% ตามมาร์เก็ตแชร์ของบริษัทในส่วนงานฐานราก
ทั้งนี้เชื่อว่าจะมีงานของภาคเอกชนออกมาเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากโครงการเมกะโปรเจ็คต์เริ่มได้ผู้รับเหมาแล้ว เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่ บมจ. ช.การช่าง (CK) ได้งานในสัญญา 1 และบริษัทเป็น Sub Contract อย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว จึงมั่นใจว่าจะได้งานในส่วนของฐานรากแน่นอน
นอกจากนี้ ในปี 52 คาดว่าจะมีความชัดเจนเรื่องงานภาครัฐและส่งผลดีต่อภาคเอกชนที่เป็นผู้รับเหมารายใหญ่ และต่อเนื่องมายัง SEAFCO ส่วนภาคเอกชนอื่น ๆ ที่บริษัทมีลุ้นจะได้งาน เช่น งานของโรงพยาบาล ศูนย์การค้า คอนโดมิเนียม แม้ว่างานประเภทคอนโดมิเนียมจะเริ่มชะลอตัวลง แต่ก็ยังเชื่อว่าปีนี้น่าจะมีงานก่อสร้างออกมาในตลาดอย่างต่อเนื่อง
สำหรับปัจจัยในปี 52 ด้านความผันผวนของราคาวัสดุดูจะน้อยลงจากปี 51 ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทสามารถดำเนินกิจการได้ง่ายกว่าปี 51 ที่บริษัทไม่สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องราคาเหล็กและราคาน้ำมัน ทำให้บริษัทประสบภาวะขาดทุนในช่วง 3 ไตรมาสของปี 51 แต่ปี 52 ไม่น่าจะมีปัญหาแล้ว