นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บ้านปู(BANPU)เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนออกหุ้นกู้ในชื่วงครึ่งหลังปี 52 อายุไม่ต่ำกว่า 3 ปี เพื่อนำไปลงทุนธุรกิจเหมืองถ่านหิน หลังจากที่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว บริษัทได้มีการเจรจาซื้อขายเหมืองถ่านหิน จากเดิมบริษัทมีแผนลงทุนเหมืองถ่านหินในอินเดีย ออสเตรเลีย นอกเหนือจากเหมืองเดิมที่มีอยู่ในอินโดนีเซีย จีน และไทย
อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการศึกษาอย่างรอบคอบ และราคาซื้อขายต้องเหมาะสมจึงจะเข้าลงทุน
"ที่ผ่านมามีหลายบริษัทเข้ามาเจรจากับเราเพิ่มมากขึ้น แต่การลงทุนมีมูลค่าสูงจำเป็๋นต้องศึกษาอย่างรอบคอบ แต่ในวิกฤติเศรษฐกิจ เราก็หวังว่าจะได้เหมืองที่ดีและราคาที่น่าพอใจ" นายชนินท์ กล่าว
สำหรับงบลงทุนในปี 52 บริษัทตั้งวงเงินไว้ลงทุนตามปกติที่ 160 ล้านเหรรียญสหรัฐ สูงกว่าปี 51 ที่มีงบลงทุนจำนวน 110 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยแบ่งเป็นการลลงทุนโครงการในอินโดนีเซีย ได้แก่ อินโดบิงโก , บารินโตะ นอกจากนี้จะขยายกำลังการผลิตเพิ่มเติม เพื่อสร้างรายได้ให้บริษัทเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทมีวงเงินกู้ที่สามารถเบิกใช้ทันทีจำนวน 5 พันล้านบาท จากปีก่อนที่มีวงเงินกู้อยู่ 3.5-4.0 พันล้านบาท จึงทำให้บริษัทไม่ห่วงด้านสภาพคล่อง
นายชนินท์ กล่าวว่า แนวโน้มปริมาณความต้องการใช้ถ่านหินในปีนี้ยังคงมีในระดับสูง เนื่องจากหลายประเทศยังคงให้ความสำคัญกับการใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง โดยราคาขายเฉลี่ยปีนี้บริษัทยังคงคาดว่าอยู่ที่ 71-72 เหรียญ/ตัน และยอดขายอยู่ที่ 20.5 ล้านตัน และรายได้คาดว่าจะโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปี 51 ที่มีรายได้ประมาณ 5 หมื่นล้านบาท
ส่วนการขายล่วงหน้าของบริษัทมีสัดส่วน 80% ของยอดขายคาดว่าจะดำเนินการเสร็จตามเป้าหมายภายในเดือนเม.ย.52 อย่างไรก็ดี มองว่าราคาถ่านหินจะไม่ผันผวนตามราคาน้ำมัน