บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) เปิดเผยว่า ไตรมาส 4/51 เครือซิเมนต์ไทย (SCG) มียอดขายสุทธิ 55,062 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 21 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากภาวะวิกฤติทางการเงินและเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ทำให้ความต้องการของตลาดลดลงอย่างมากและรวดเร็ว ทั้งยังส่งผลกระทบให้ราคาสินค้าและวัตถุดิบลดลงอย่างเฉียบพลัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจเคมีภัณฑ์
ในไตรมาสนี้ SCG ขาดทุนสุทธิ 3,480 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีกำไรสุทธิ 5,774 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากยอดขายและ Margin ที่ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ประกอบกับได้รับผลกระทบจากขาดทุนจากมูลค่าสินค้าคงเหลือ(Stock Loss)ประมาณ 5,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจากธุรกิจเคมีภัณฑ์ นอกจากนี้ SCG รับรู้ขาดทุนตามวิธีส่วนได้เสียจากผลการดำเนินงานของบริษัทร่วมที่ลดลงจากไตรมาสก่อน
ทั้งปี 51 SCG มียอดขายสุทธิ 293,230 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จากปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิรวมทั้งปี 16,771 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 45 จากปีก่อน เนื่องจาก Margin ที่ลดลง และขาดทุนจากมูลค่าสินค้าคงเหลือประกอบกับผลการดำเนินงานที่ลดลงของบริษัทร่วมในธุรกิจเคมีภัณฑ์ ซึ่งกลุ่มบริษัทได้รับรู้ตามวิธีส่วนได้เสีย รวมทั้งรายได้รับจากเงินปันผลลดลง
จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ถดถอย SCG ได้กำหนดมาตรการเชิงรุกเพื่อบริหารสภาพคล่องและเงินทุนหมุนเวียนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและได้เพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขัน โดย SCG สามารถลดระดับสินค้าคงเหลือในไตรมาส 4/51 ลดลงจากไตรมาสก่อน 14,164 ล้านบาท รวมทั้งสร้างความมั่นคงทางการเงิน ทำให้มีเงินสดคงเหลือในมือ ณ สิ้นปี 51 เท่ากับ 26,714 ล้านบาท
อีกทั้งได้เร่งการส่งออก เพิ่ม High Value Product บริหารการผลิตให้มีประสิทธิภาพและควบคุมต้นทุน ผลจากการดำเนินมาตรการข้างต้น ส่งผลให้ SCG มีหนี้สินสุทธิลดลงจาก 123,321 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 3/51 เป็น 120,521 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 4/51
สินทรัพย์รวมของ SCG ณ 31 ธันวาคม 51 มูลค่า 285,717 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 50 เท่ากับ 37,461 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากโครงการลงทุนและการนำผลการดำเนินงานของ บมจ.ไทย-เยอรมัน เซรามิค อินดัสทรี่(TGCI) มาจัดทำงบการเงินรวมตั้งแต่ไตรมาส 3/51