ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กหุ้นกลุ่มการเงินทะยาน หนุนดาวโจนส์ปิดพุ่ง 200.72 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 29, 2009 06:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (28 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่าคณะทำงานของบารัค โอบามาจะจัดตั้งธนาคารเพื่อเข้าซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่อระบบการเงินภายในประเทศ นอกจากนี้ ดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงดอกเบี้ยและส่งสัญญาณว่าจะเข้าซื้อพันธบัตรเพื่อกระตุ้นสภาพคล่องในตลาดการเงิน

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่ง 200.72 จุด หรือ 2.46% แตะที่ 8,375.45 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 28.38 จุด หรือ 3.36% แตะที่ 874.09 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 53.44 จุด หรือ 3.55% แตะที่ 1,558.34 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.55 พันล้านหุ้น เมื่อเทียบกับวันอังคารที่ 1.17 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 6 ต่อ 1

โรเบิร์ต แมคอินทอช หัวหน้านักวิเคราะห์จากอีตัน แวนซ์ อินเวสท์เมนท์ เมเนจเมนท์ กล่าวว่า หุ้นกลุ่มการเงินทะยานขึ้นแข็งแกร่งเนื่องจากนักลงทุนคาดว่ารัฐบาลสหรัฐจะยื่นมือช่วยเหลือธนาคารที่ประสบปัญหาและจัดตั้งธนาคารเพื่อเข้าซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่อระบบการเงิน

ทั้งนี้ หุ้นธนาคารเวลส์ ฟาร์โก พุ่งขึ้น 31% หุ้นซิตี้กรุ๊ปทะยานขึ้น 19% หุ้นแบงค์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 13% และหุ้นสเตท สตรีท คอร์ป พุ่งขึ้น 31%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กขานรับคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) มีมติ 8 ต่อ 1 ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (Fed Funds Rate) ไว้เท่าเดิมในช่วง 0-0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปี 2497 และคงอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน (Discount Rate)ที่ระดับ 0.50%

เฟดยืนยันว่าจะใช้เครื่องมือทุกอย่างที่มีอยู่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างยั่งยืน รวมถึงการเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลสหรัฐ พร้อมกับมุ่งเน้นเรื่องกลไกการสร้างเสถียรภาพในตลาดการเงินและกระตุ้นเศรษฐกิจโดยผ่านการดำเนินการในตลาดควบคู่ไปกับการใช้มาตรการด้านอื่นๆ และเฟดเล็งเห็นว่าการคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ไปอีกระยะหนึ่งจะช่วยปกป้องเศรษฐกิจสหรัฐไม่ให้ถดถอยในระดับที่ลึกและรุนแรง

นักลงทุนจับตาดูสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐที่จะลงคะแนนเสียงอนุมัติมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจมูลค่า 8.16 แสนล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโอบามา โดยมาตรการดังกล่าวครอบคลุมถึงการลดหย่อนภาษีและกระตุ้นการใช้จ่ายผู้บริโภคมูลค่า 6.04 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งมีเป้าหมายที่จะยับยั้งภาวะเศรษฐกิจถดถอย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ