N-PARKจะขอมติผถห.โอนหุ้นBMCLให้ไทยสมุทรฯ-เพิ่มทุน-ขายหุ้นในมือ2ก.พ.นี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 29, 2009 15:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

แหล่งข่าว บมจ. แนเชอรัลพาร์ค (N-PARK) เปิดเผยว่า ในวันที่ 2 ก.พ.นี้นอกจากจะขอมติเรื่องโอนหุ้นสามัญ บมจ. รถไฟฟ้ากรุงเทพ (BMCL) เพื่อชำระให้กับไทยสมุทรประกันชีวิตแล้ว บริษัทยังจะนำเรื่องการขอเพิ่มทุน 480 ล้านบาท และการขายหุ้น บจ.และสินทรัพย์ที่เหลือในมือจากผู้ถือหุ้นด้วย

N-PARK มีแผนขายสินทรัพย์ต่างๆ ได้แก่ หน่วยลงทุนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ยูโอบี อะพาร์ทเมนท์ หนึ่ง (UOBAPF) 27.06% ของหน่วยลงทุนที่ชำระแล้ว, หุ้นสามัญของ บมจ. รถไฟฟ้ากรุงเทพ (BMCL) 2.68% ของทุนชำระแล้ว, หุ้นสามัญของ บมจ. แสนสิริ (SIRI) 4.26% ของทุนชำระแล้ว, หุ้นสามัญของ บมจ. ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น (SYNTEC) 11.88% ของทุนชำระแล้ว และหุ้นสามัญของ Kyoto Resorts YK (Kyoto) 66.7% ของทุนชำระแล้ว และสิทธิเรียกร้องในหนี้เงินให้กู้ยืมและดอกเบี้ยค้างรับจาก Kyoto

"วันจันทร์นี้จะลุยทุกอย่างทั้งเรื่องโอนหุ้น BMCL ขอเพิ่มทุน และขายหุ้น บจ.ที่ถืออยู่ในมือ ก็จะขอมติใหม่ เพราะอย่างตอนนั้นที่เคยขอมติเรื่องขายหุ้น SYNTEC ที่ราคา 1 บาท แต่ตอนนี้ราคาหุ้นลดลงเหลือ 0.40 บาท คงขายที่ราคาเดิมไม่ได้แล้วก็จะขอมติใหม่ จะขอเป็น Open"แหล่งข่าว กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"

แหล่งข่าว กล่าวว่า ถ้าผู้ถือหุ้นอนุมัติ เราก็จะโอนหุ้น BMCL จำนวนให้กับไทยสมุทรฯ ตามกำหนด แต่หากก่อนถึงการกำหนดโอนหุ้น งวดที่ 2-4 ราคาหุ้น BMCL ขยับ เราก็สามารถขายและเอาเงินไปชำระคืนก็ได้

สำหรับกรณีศาลแพ่งกรุงเทพใต้มีคำสั่งประนีประนอมยอมความกับบริษัท ไทยสมุทรประกันชีวิต จำกัดนั้น ถือเป็นข่าวดีสำหรับบริษัทอย่างมาก เนื่องจากคดีนี้ยืดเยื้อคาราคาซังมานานกว่า 10 ปี

"ถือเป็นข่าวดีมากๆ สำหรับเราที่ประนีประนอมยอมความกับไทยสมุทรฯได้ เพราะจะทำให้ภาระการตั้งสำรองฯ ลดไป งบการเงิน ฐานะการเงินก็จะดีขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือทำให้คดีล้มละลายซึ่งค้างอยู่ที่ศาลฎีกาตอนนี้ยุติไปด้วย ส่งให้บริษัทมีเครดิตดีขึ้น"แหล่งข่าว กล่าว

แหล่งข่าวชี้แจงเพิ่มเติมว่า ตอนนั้นที่ศาลแพ่งมีคำสั่งให้เราแพ้คดี ทำให้ Auditor ต้องเอาที่เราแพ้คดีต่างๆ มาตั้งสำรองฯ ทำให้ส่วนทุนของเราลดลงอย่างมาก แต่ผู้บริหารก็ไม่ได้นิ่งนอนใจวิ่งเต้นหาทางเพื่อให้เรื่องนี้จบโดยเร็วที่สุด

"ฝ่ายโจทก์เรียกมา 386 ล้านบาท บริษัทฯ ก็ต้องตั้งสำรองหนี้สินเงินต้นและดอกเบี้ยรวม 386 ล้านบาทในงบการเงินระหว่างกาลสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2551 ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อฐานะทางการเงินของบริษัทและการดำเนินกิจการใน อนาคต แต่พอเราเคลียร์เหลือ 200 ล้านบาท เพราะฉะนั้นส่วนต่าง 186 ล้านบาทจะ Reverse กลับมาเป็นกำไร ส่วน 200 ล้านบาท ที่เราต้องจ่ายก็จะจ่ายด้วยเงินสด 75 ล้านบาท และที่เหลือก็จะจ่ายเป็นหุ้นที่บริษัทถือใน BMCL หรือเทียบเท่า"แหล่งข่าว กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ