ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 435.00 จุด ลดลง 13.35 จุด(-2.98%) มูลค่าการซื้อขาย 13,750 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีเคลื่อนกรอบสลับบวกและลบ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 452.31 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ปิดตลาด คือ 435.00 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 51 หลักทรัพย์ ลดลง 268 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 80 หลักทรัพย์
นายอภิสิทธิ์ ลิมศุภนาค ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายหลักทรัพย์ บล.บีฟิท กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ร่วงแรงประเด็นที่ทำให้ปรับลงน่าจะเป็นเรื่องการมองทิศทางของตลาดหุ้นในต่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องนโยบายที่ทางสหรัฐผ่านแผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 8.25 แสนล้านดอลลาร์ แต่การตอบสนองของตลาดซื้อขายล่วงหน้าหรือดาวโจนส์ฟิวเจอร์ไม่ได้ให้แรงตอบสนองในเชิงบวก พอตลาดไม่รับข่าวบวกจึงมีการขายทำกำไรออกมาทันทีเพื่อรอดู sentiment ในช่วงของวันศุกร์ที่จะมีการประกาศ GDP ของสหรัฐ และอีกประเด็นคิอที่ทางนปช.จะมีการนัดชุมนุมกัน ก็คงจะมองเรื่องความวุ่นวาย
"ที่จริงดาวโจนส์ฟิวเจอร์สควรจะบวกแต่เป็นลบ และตลาดหุ้นในโซนยุโรปก็ติดลบด้วยรวมถึงการคาดการณ์ต่างๆ เรื่องตัวเลขเศรษฐกิจหรือแม้กระทั่ง GDP ไตรมาส 4/51 ของสหรัฐ ที่คาดการณ์ว่าวันศุกร์นี้ประกาศมาจะติดลบทำให้คนค่อนข้างกังวล" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ทิศทางพรุ่งนี้ คาดว่าจะซึม ทุกคนจะอยู่ในภาวะ wait and see ตลาดน่าจะแกว่งตัวแคบๆ กรอบ 445 จุดกลายเป็นแนวต้าน จุดที่จะดูว่าตลาดจะยืนแกว่งตัวแคบหรือลงแรงหรือไม่แรงให้ดูที่ 435 จุด บวกลบ
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,513.31 ล้านบาท ปิดที่ 220.00 บาท ลดลง 12.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,452.59 ล้านบาท ปิดที่ 97.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,108.26 ล้านบาท ปิดที่ 159.00 บาท ลดลง 8.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 678.63 ล้านบาท ปิดที่ 52.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
TTA มูลค่าการซื้อขาย 652.35 ล้านบาท ปิดที่ 17.00 บาท ลดลง 0.80 บาท