SOLAR สบช่องงบประมาณรัฐ คาดหวังรายได้สูงกว่าปีก่อน-มาร์จิ้นไม่ติดลบ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 30, 2009 12:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.โซลาร์ตรอน (SOLAR) สบช่องกระจายงบประมาณลงรากหญ้าของรัฐเข้าเสนอขายสินค้าตามหน่วยงานรัฐ องค์กรส่วนท้องถิ่น เจาะพื้นที่ทางใต้ และ เอกชนที่เจรจาจับมือกันอยู่ที่คาดจะได้ข้อยุติประมาณในไตรมาส 2/52 มุ่งขายทั้งระบบและแผงโซลาร์ หวังดันมาร์จิ้นดีขึ้น ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนขายในประเทศ 60% จาก 50% ในปีก่อน ส่วนตลาดส่งออกลดเหลือ 40% เน้นตลาดที่ยังมีกำลังซื้อ คาดหวังปี 52 จะทำรายได้มากกว่าปี 51

นางปัทมา วงษ์ถ้วยทอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SOLAR กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ในปี 52 บริษัทได้ปรับการทำตลาดเพื่อขายได้มากขึ้น โดยเน้นรักษาตลาดในประเทศ รุกตลาดภาครัฐ และร่วมจับมือเอกชน โดยตั้งเป้าปี 52 สัดส่วนส่งออก 40% และในประเทศ 60% จากปี 51 ที่มีสัดส่วนส่งออกและ ในประเทศ 50/50 ฉะนั้นคาดว่ารายได้ปี 52 จะมากกว่าปี 51 ที่มีรายได้เข้าเป้าหมาย และดีกว่าปี 50 ดีกว่ามาก

ส่วนมาร์จิ้น บริษัทมีค่าใช้จ่ายประจำอยู่แล้ว ปีนี้พยายามทำรายได้ให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายให้มากที่สุด ยอมรับว่าในสถานการณ์แบบนี้มีมาร์จิ้นก็ดีแล้ว ซึ่งเป็นผลจากการขายระบบหรือโนว์ฮาว พร้อมแผงโซลาร์ไปด้วย แต่มีมาร์จิ้นน้อยดีกว่าไม่ได้เลย

นางปัทมา กล่าววา ในไตรมาสแรกนี้ บริษัทเตรียมจะลงไปขายตรงเองโดยไม่ผ่านดีลเลอร์ หรือ ผ่านคนกลาง เพราะต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในการขาย ทั้งนี้ บริษัทจะอิงกับนโยบายของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้งบประมาณในกองทุนหมู่บ้านเอสเอ็มแอล จำนวน 2 แสนลาท และสูงสุด 6 แสนบาท ซึ่งมากกว่ารัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่ให้งบดังกล่าวไว้ ที่ 1 แสนบาทและสูงสุดที่ 3 แสนบาท จากเดิมบริษัทเคยขายผ่านโครงการโซล่าร์โฮม ซึ่งขณะนี้ โครงการส่วนใหญ่จะหมดสัญญาแล้ว

"เราพยายามอิงกับนโยบายายคุณอภิสิทธิ์ ซึ่งลงไปรากหญ้าที่ลงไปตรงและมากกว่า...ฉะนั้นตอนนี้เราก็พอเห็นอะไรเป็นรูปธรรมมากขึ้นแล้วของรัฐบาลใหม่ และจะขายตรง แทนที่จะไปประมูลเอาสัมปทานหรือขายผ่านคนกลาง ดีลเลอร์ เพื่อลดต้นทุนนและปรับลดราคาขายได้ ทีมงานที่เรามีเน็ตเวิร์คอยู่แล้ว ทั่วทุกจังหวัดในไทย ฉะนั้นตอนนี้เราทำงานหนักมาก"

"เราขายตรงกับคนที่ได้รับงบประมาณ เดิมเราให้อบต.ให้เป็นคนช่วยเรา แต่ตอนนี้เราขายตรงทั้งเทศบาล ทั้งกำนัน ผู้ใหญีบ้าน ส.ส. ผู้ว่าฯ เพราะเราได้วางเน็ตเวิร์คไว้และรู้จักสินค้าของเราแล้ว"นางปัทมา กล่าว

นอกจากนี้ ตลาดในประเทศของบริษัทยังเน้นขายทางภาคใต้ โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ไม่มีใครแข่งกับบริษัท และที่ผ่านมาบริษัทได้เคยติดตั้งแผงโซลาร์ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาแล้ว ในโครงการโซลาร์โฮม เพราะฉะนั้น เรารู้จักพื้นที่เป็นอย่างดี

ประกอบกับทางภาคใต้ได้ปรับเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังานทดแทน โดยค่ารับซื้อไฟจากแผงโซลาร์ได้สูงกว่าเป็น 9.50 บาท จาก 8.50 บาท และพลังลม ได้เพิ่มเป็น 5 บาท จาก 3 บาท

"positioning เราเป็นพลังงานทดแทน ไม่ได้เป็น เฉพาะขายแผงโซลาร์ เราไม่ได้ยึดติดกับแผลโซลาร์อย่างเดียว...ถ้าเป็นตลาดในประเทศ เราเน้นพื้นที่ภาคใต้ เราเน้นในที่ที่คนไม่แข่งกับเรา แต่ว่ามี opportunity เพราะว่า situation อย่างนี้ เราต้องขยัน"

สำหรับเอกชน บริษัทเตรียมจะทำโครงการร่วมกับบริษัทอื่นที่จะซื้อสินค้าของบริษัท ขณะนี้ได้มีการเจรจากับบริษัทเอกชนหลายราย โดยคาว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 2/52

ทั้งนี้ รายได้ปีนี้รอการประเมินกับงานที่ร่วมกับเอกชน ซึ่งบริษัทต้องดูว่าเราจะเป็นรายได้ประเภทไหน ถ้าเราบันทึก เป็นทรัพย์สิน รายได้ก็จะมารับซื้อไฟ ก็จะเป็นรายได้เป็นแบบน้ำซึมบ่อทราย แต่ถ้าเราตกลงกันแล้ว เราขายระบบด้วย เราจะรับรู้รายได้ทั้งหมด ซึ่งต้องรอคุยกันในนรายละเอียด แต่ไม่ว่าจะเป็นการบันทึกแบบไหนก็เป็นการสร้างความมั่นคงให้กับบริษัท

ทั้งนี้ ตลาดในประเทศ จะมาจากภาครัฐและเอกชน 50/50

สำหรับตลาดต่างประเทศ เน้นตลาด Niche market ที่เป็นตลาดที่มีอำนาจซื้อ เราคงไม่ส่งไปทุกที่ เพราะแต่ละที่มีข้อจำกัดด้านการเงินจากปัญหาวิกฤติการเงินของโลก แต่จากที่บริษัทมีประสบการณ์ส่งออกมา 2 ปี ประกอบกับบริษัทใบรับรองการส่งออกระดับนานาชาติ แล้ว ทำให้เราสามารถเลือกลูกค้าได้มากขึ้น เราก็จึงอยากเลือกลูกค้าที่มีมาร์จิ้นดีและเราร่วมมือกับหลายรัฐบาลต่างประเทศ

ตลาดเป้าหมาย ได้แก่ ประเทศในกลุ่มอาเซียน ซึ่งไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งเป็นข้อตกลงในอาฟต้า รองลงมา อาหรับ และ ตลาดยุโรป ซึ่งเคยส่งออกไป โดยจะส่งออกทั้งระบบและแผงโซลาร์ด้วย ซึ่งทำให้เราแข่งขันกับจีนหรือประเทศอื่นได้ "ปีทีแล้วสถานการณ์ดีกว่าปี 50 ส่วนสถานการณ์ปี 52 พยายามอยู่รอดให้ได้ แต่เรามีมาตรฐานรับรองมากขึ้นมา ให้เราสามารถเลือกลูกค้าได้มากขึ้น" นางปัทมากล่าว

อนึ่งในงวด 9 เดือน ปี 51 บริษัทมีรายได้ 308.43 ล้านบาท ขาดทุน 16.29 ล้านบาท ขาดทุนลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนทีมีผลขาดทุน 72.85 ล้านบาท โดยปี 51 บริษัทมีผลขาดทุน จำนวน 91 ล้านบาท รายได้ 115.27 ล้านบาท

SOLAR เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายแผงโซลาร์เซลล์แสงอาทิตย์ และให้บริการออกแบบและติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ