แหล่งข่าวระดับสูงของ บมจ. ไดสตาร์ อิเลคทริก คอร์เปอเรชั่น (DISTAR) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทฯ คาดว่ารายได้ปี 52 น่าจะดีกว่าปี 51 เนื่องจากบริษัททำตลาดด้วยความเข้าใจตลาดมากขึ้นหลังจากใช้เวลาศึกษา ลองผิดลองถูกอยู่นานตั้งแต่เปลี่ยนจากการทำธุรกิจเดิมคือธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า ประกอบกับตลาดให้การตอบรับรถที่ใช้ก๊าซธรรมชาติมากขึ้น
อีกทั้งปีนี้จะเป็นปีแรกที่เราจะขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่มลูกค้าที่เป็นหน่วยงานภาครัฐ โดยมีบริษัท อิตัลไทยอุตสาหกรรม จำกัด ช่วยรับผิดชอบการทำตลาดในส่วนของหน่วยงานราชการให้ ส่วนลูกค้าที่เป็นภาคเอกชนบริษัทจะทำการตลาดเองทั้งหมด
"ก่อนหน้านี้เราทำตลาดเองทั้งหมด และเน้นไปที่ลูกค้าเอกชน แต่ปีนี้จะเป็นปีแรกที่จะขยายฐานลูกค้าสู่ภาครัฐ และอยากจะหามืออาชีพเข้ามาทำในส่วนของราชการก็เลยติดต่อทางอิตัลไทยฯ สัญญาที่เซ็นกันเป็นสัญญาเปิด ถ้าร่วมกันแล้วธุรกิจไปได้ด้วยดีก็อาจจะร่วมมือกันไปเรื่อยๆ"แหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าว กล่าวว่า ที่ผ่านมาสัดส่วนรายได้ของบริษัทมาจากลูกค้าภาคเอกชนทั้งหมด แต่ปี 52 สัดส่วนรายได้จากภาคเอชนจะลดลงเหลือ 70% ภาครัฐ 30% โดยตั้งเป้าปี 52 จะสามารถปล่อยรถบัสโดยสาร HIGER เข้าสู่ท้องตลาดได้กว่า 350 คัน ราคาเฉลี่ย 2 ล้านบาทต่อคัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 700 ล้านบาท จากปี 51 ที่บริษัทสามารถปล่อยรถออกสู่ท้องตลาดเกือบ ๆ 200 คันในปี 51 โดยในจำนวน 350 คัน จะเป็นรถเมล์โดยสารปรับอากาศรุ่นใหม่ ประมาณ 90 คัน และรถบัสที่ใช้ในหน่วยงานราชการประมาณ 70 คัน
โดยรถบัส 1 คันใช้เวลาประกอบ 25-30 วัน ซึ่งปัจจุบันโรงงาน HIGER ที่ จ.ระยองสามารถประกอบรถบัสได้ประมาณ 30 คัน/เดือน
ปัจจุบันรายได้ของบริษัทมาจากการผลิตและขายรถบัสโดยสาร HIGER ตามคำสั่งซื้อลูกค้า 90% อีก 10% เป็นรายได้จากการบริหารเปลี่ยนเครื่องยนต์จากเบนซินมาใช้ก๊าซธรรมชาติ
*เล็งออกผลิตภัณฑ์ใหม่กลางปีนี้
แหล่งข่าว กล่าวว่า ตลาดรถบัสที่ใช้ก๊าซธรรมชาติยังมีโอกาสเติบโตต่อไปได้ รวมทั้งความต้องการใช้งานก็จะมีหลากหลายมากขึ้น ซึ่งบริษัทฯ ก็พร้อมจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อรองรับความต้องการดังกล่าว
ดังนั้น บริษัทจึงมีแผนที่จะทำธุรกิจใหม่ที่ยังเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจรถโดยสาร โดยเบื้องต้นมีแผนจะขายรถตามลักษณะการใช้งาน เช่น อาจจะเอาไปทำเป็นรถโฆษณาที่มีสไลด์แบบเลื่อนได้ แต่ขนาดจะเล็กและถูกกว่ากว่ารถบัสโดยสาร เจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นบริษัทโฆษณานำไปเสนอกลุ่มลูกค้าที่เป็นบริษัทโฆษณาที่ต้องการสื่อโฆษณาใหม่ๆ ไปนำเสนอลูกค้าที่เป็นเจ้าของสินค้าอีกต่อนึง เชื่อว่าน่าจะเป็นทางเลือกใหม่ให้กับตลาดและน่าสจะสร้างรายได้ให้บริษัทได้อีกทาง โดยคาดว่าน่าจะได้เห็นความชัดเจนของธุรกิจใหม่ในช่วงกลางปี 52
"เมื่อก่อนเราทำธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้ามีผลขาดทุนมาตลอดเลิกทำมาประมาณ 3 ปีแล้ว กว่าผู้บริหารก็เริ่มมองหาธุรกิจใหม่ ก็ใช้เวลาศึกษาผลิตภัณฑ์ประมาณปีกว่าๆ ว่าจะทำธุรกิจรถบัส NGV ก็เริ่ม Survey ตลาดที่เมืองจีน เอารถเข้ามาทดลองวิ่ง Set up โรงงาน ผลิตรถขาย ซึ่งก็เชื่อว่าตลาดยังเติบโตต่อไปได้ และมีความต้องการใช้งานที่หลากหลายขึ้น"แหล่งข่าวกล่าว
*ยืนยันเจตนาร่วมรถเมล์ NGV ขสมก.แม้ต้องลุ้นรัฐแก้ไขร่าง TOR
ส่วนเรื่องการเข้าประมูลทำโครงการรถเมล์ NGV ของ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) นั้น แหล่งข่าว กล่าวว่า บริษัทฯ ยังยืนยันความตั้งใจที่จะเข้าร่วมประมูลอยู่ เพียงแต่ต้องรอดูว่าทางกระทรวงคมนาคมจะมีการแก้ไขร่าง TOR หรือไม่ เนื่องจาก TOR เดิมมีหลายประเด็นที่ผู้ประกอบการยังไม่ยอมรับ ทำให้ส่วนใหญ่เกิดการแบ่งรับแบ่งสู้
"โครงการนี้ทุกค่ายสนใจแต่ก็สงวนท่าที เราเองก็สนใจแต่ต้องศึกษารายละเอียดร่าง TOR และพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ...เพราะเงื่อนไขเดิมทำยาก เท่าที่ทราบว่าตอนนี้อยู่ระหว่างเปิดประชาพิจารณ์อยู่ ก็ต้องดูจะมีการแก้ไขร่าง TOR ออกมาหรือไม่"แหล่งข่าวกล่าว