บมจ. โออิซิ กรุ๊ป(OISHI)คาดว่า ในปี 52 รายได้จะเติบโต 20% เป็น 7 พันลบ.จากปี 51 ที่คาดว่าจะมีรายได้ราว 6 พันล้านบาท โดยในปีนี้บริษัทมีแผนปรับสัดส่วนรายได้ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มมาที่ 50:50 เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง
พร้อมกับในปีนี้เตรียมทุ่มงบ 200 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยายสาขาใหม่ 20 สาขาและปรับปรุงสาขาเดิม จากปัจจุบันที่มีอยู่ 97 สาขา
"ปีที่แล้วรายได้จากอาหารโตมาก โตเป็นตัวเลข 2 หลักในรอบ 9 ปี รายได้และกำไรเราเกินเป้า ส่วนปีนี้เราตั้งเป้ารายได้เราจะโต 20%...ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจจะไม่ดีแต่ผมมั่นใจว่ารายได้เราจะดี เดือนแรก (ม.ค.)เราเห็นทิศทางดีแล้ว โดยเดือนมกราคมมียอดขายร้านอาหารสูงสุดในรอบ 10 ปี"นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้จัดการ OISHI กล่าว
ทั้งนี้ คาดว่าธุรกิจอาหารจะเติบโต 25% ส่วนธุรกิจเครื่องดื่ม โต 20% จากปีก่อนที่ธุรกิจอาหารเติบโต 30% และเครื่องดื่มโต 20%
ด้านนายไพศาล อ่าวสถาพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจอาหาร OISHI กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทจะขยายสาขาใหม่ 20 สาขา ซึ่งมีหลายแบรนด์ ได้แก่ เป็นแบรนด์ ชาบูชิ 6 สาขา, ซูชิบาร์ 2 สาขา โออิชิ แกรนด์ บุฟเฟ่ต์ 1-2 สาขา ราเม็ง 3 สาขา ร้านดิลิเวอร์รี่ 5 สาขา และร้านแบรนด์ใหม่ชื่อ ไมโดะ โอคินิ โชกุโดะ ซึ่งเปิดสาขาแรกเมื่อปีก่อนที่สาขาฟิวเจอร์ปาร์คปีนี้จะเปิดอีก 3 สาขา
นอกจากนี้ ยังจะมีการปรับปรุงสาขาและใช้งบการตลาดประมาณ 5% ของรายได้เท่ากับปีก่อน
นายไพศาล คาดว่า ในปีนี้โออิชิจะสามารถชิงส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 40% จากปีก่อนอยู่ที่ 35% ของตลาดรวมอาหารญี่ปุ่นในไทยที่ปีนี้คาดว่าจะมีมูลค่ารวม 7 พันล้านบาท เพิ่มจากปีก่อนที่มีมูลค่า 6 พันล้านบาท พร้อมตั้งเป้ารายได้รวมของบริษัทจะมาจากธุรกิจอาหาร 50% และธุรกิจเครื่องดื่ม 50% จากก่อนหน้านี้มีสัดส่วน 30% ในธุรกิจอาหาร อีก 70% มาจากธุรกิจเครื่องดื่ม และเริ่มเปลี่ยนสัดส่วนมาที่ 45% ของธุรกิจอาหาร และ 55% ในธุรกิจเครื่องดื่มเมื่อปีก่อน
อย่างไรก็ดี ในปีที่ผ่านมาธุรกิจอาหารของโออิชิประสบความสำเร็จจากการจัดแคมเปญ"The Celebration of Nature"หรือ"โออิชิ..สื่อความอร่อยผ่านทุกฤดูกาล"ซึ่งปีนี้เป็นปีที่สองจัดแคมเปญดังกล่าว ที่จะมีอาหารญี่ปุ่นตามฤดูกาล และปีนี้เน้นคัดสรรวัตถุดิบ โดยมีเมนูใหม่กว่า 120 รายการ ฤดูกาลละ 30 กว่าเมนู โดยฤดูหนาวนี้(ม.ค.-มี.ค.52)จะมีเมนู"ฮามาจิ ซาซิมิ" เป็นไฮไลท์
"ปีที่ผ่านมาเราไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ แบรนด์เราค่อนข้างแข็งแรง เรายกระดับตัวเป็นผู้นำ โดยเฉพาะบุฟเฟ่ต์ ...แต่ปีนี้คงเหนื่อยมาก ด้วยภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แต่เราพยายามสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง อย่างเรื่องการนำปลาฮามาจิมาบริการ และการคัดสรรวัตถุดิบจากญี่ปุ่น โดยลูกค้าไม่ต้องบินไปกินถึงญี่ปุ่นอีกแล้ว"นายไพศาล กล่าว