โบรกฯแนะ"ซื้อ"STEC มีลุ้นสูงคว้างานประมูลรถไฟฟ้าสายสีม่วงสัญญา 2

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 3, 2009 14:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ แนะนำให้เข้าซื้อ หุ้นบมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC)เมื่อราคาอ่อนตัว เพราะคาดว่า STEC มีโอกาสสูงคว้างานประมูลรถไฟฟ้าสายสีม่วงสัญญาที่ 2 มูลค่างานราว 1.26 หมื่นล้านบาท เมื่อเทียบกับผู้รับเหมาอีก 2 ราย คือ บมจ.อิตาเลียนไทย ดิเวล๊อปเม้นท์ (ITD)และ บมจ.ช.การช่าง (CK) ประกอบกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ผู้ถือหุ้นของบริษัทมีสัมพันธ์ทางการเมืองใกล้ชิดกับรัฐบาลชุดนี้

ขณะที่ในปี 52 หากไม่นับรวมงานรถไฟฟ้าสายสีม่วง ก็คาดว่าบริษัทมจะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 45% จากปีก่อน เนื่องจากงานในมือมีกำไรขั้นต้นเพิ่มเป็น 5% จากปีก่อนมี 3.5% เพราะงานเก่าที่ไม่มีมาร์จิ้นได้ทยอยหมดลง

ปิดเที่ยง ราคาหุ้น STEC อยู่ที่ 3.20 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงเช้าราคาปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 3.26 บาท โดยราคาปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 3.46 บาทเมื่อ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา

          โบรกเกอร์            คำแนะนำ          ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
          บล.เกียรตินาคิน        ทยอยซื้อ             3.60
          บล.เอเชียพลัส         ซื้อ                 3.55
          บล.ยูไนเต็ด           ซื้อเมื่ออ่อนตัว         3.25
          บล.บัวหลวง           เก็งกำไร            3.08
          บล.กิมเอ็ง            รออ่อนตัว            3.00

นายสุรศักดิ์ อนุตรโสตถิ์ ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) กล่าวว่า การเปิดประมุลรถไฟฟ้าสายสีม่วงสัญญาที่ 2 ในสัปดาห์หน้า ผู้รับเหมาขนาดใหญ่ทั้ง 3 รายมีความเป็นไปได้ที่จะชนะประมูล แต่เมื่อพิจารณาจากการเสนอราคาประมูลในสัญญาที่ 1 ที่มี ซิโนไท กับ ช.การช่างที่เสนอราคาใกล้เคียงกัน โดย STEC จะเสนอราคาสูงกว่า CK ไม่มาก ขณะที่ อิตาเลียนไทย เสนอราคาสูงกว่ามาก

"ถ้า base on บนสมมติฐานเดียวกัน ดูแล้วทั้ง STEC กับ CK ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเสนอราคาที่ต่ำในสัญญาที่ 2...ถึงแม้ว่า CK จะได้ในสัญญาที่ 1 แล้วก็ไม่เกี่ยว เพราะเขาสามารถได้สัญญาพร้อมกันได้ หรือ 3 สัญญาจะได้เพียงบริษัทเดียวก็ได้"นายสุรศักดิ์ กล่าว

ในแง่พื้นฐาน ถ้าไม่รวมโครงการรถไฟฟ้า เห็นว่ามาร์จิ้นของ STEC ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยงานเก่าที่มาร์จิ้นต่ำๆหมดไปตั้งแต่ปีก่อน โดยปี 51 กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 3.5% และในปี 52 ปรับเพิ่มขึ้นมาเป็น 5% ซึ่งเป็นงานใหม่ที่รับตั้งแต่ปีที่แล้วมีมาร์จิ้นประมาณ 10% ทำให้กำไรปี 52 ดีขึ้น คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 174 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อนประมาณ 45% ที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิที่ 120 ล้านบาท

นอกจากนี้ ในปีนี้บริษัทมีแนวโน้มได้งานใหม่เพิ่มจากโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่มองว่ามีโอกาสได้งาน ส่วนงานเอกชนคงชะลอตัวไป

หากบริษัทได้งานเพิ่มจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง สัญญาที่ 2 มูลค่างานประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท ทำให้มูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้น ก็จะมีการปรับเป้าหมายเพิ่มอีกประมาณ 0.30-0.50 บาท จากปัจจุบันที่ให้ราคาเป้าหมายไว้ 3.00 บาท

"ราคาวันนี้ที่ปรับขึ้นมาเพราะเก็งกำไรว่าจะได้งานรถไฟฟ้าด้วย ถ้าจะลงทุนควรรอให้ราคาต่ำกว่านี้ หรือต่ำกว่า 3 บาท" นายสุรศักดิ์ กล่าว

ด้านนายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.บัวหลวง กล่าวว่า ผู้บริหารของ STEC ได้แสดงความมั่นใจว่าจะงานโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง และก็คาดว่า STEC มีโอกาสได้งานสัญญาที่ 2 มากที่สุด เพราะว่า CK ได้ไปสัญญาที่ 1 และความสัมพันธ์ทางด้านการเมืองก็ทำให้บริษัทมีโอกาสได้งานมากขึ้น รวมทั้งความชำนาญด้านการก่อสร้าง

แต่หากพิจารณางบดุล แล้วเห็นว่า STEC ดูแข็งแรงที่สุดในกลุ่มผุ้รับเหมาทั้ง 3 รายได้ ซึ่งดูจาก อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน(D/E) กระแสเงินสด เป็นต้น

"เวลาตลาดเล่นก็เก็งกำไรหุ้นกลุ่มรับเหมาหมด เพราะในช่วงสัปดาห์หน้าจะเปิดประมูล สัญญาที่ 2...ในแง่ Valuation ของเราเห็นว่า STEC น่าสนใจ เราไปคุยกับเขา คุณอนุทิน (ชาญวีรกูล เป็นผุ้ถือหุ้น) เขาก็มั่นใจ น่าจะได้สัญญา 2 เพราะว่าสัญญาแรก CK ได้ไปแล้ว"นายชัยพร กล่าว

นอกจากนี้ จุดที่มองว่า STEC โดดเด่น เพราะเป็นบริษัทรับเหมาเล็กสุด เวลาได้งานประมูลจะมีผลต่อรายได้และกำไรมากที่สุด โดยหาก STEC ชนะได้มา 1 สัญญา กำไรต่อหุ้น(EPS)ก็จะปรับขึ้นมาเป็น 0.51 บาท จาก 0.34 บาท ในปี 53

อย่างไรก็ตาม เห็นว่าการลงทุนในกลุ่มบริษัทรับเหมาเป็นการเก็งกำกำไรมากกว่า เพราะมองว่าหุ้นกลุ่มรับเหมาไม่ได้เป็นหุ้นทีเหมะกับการลงทุนระยะยาว

ฝ่ายวิจัย บล.เอเชียพลัส เห็นว่าประเด็นที่จะเห็นความคืบหน้าได้เร็วกว่า ได้แก่ การเปิดซองราคาในสัญญาที่ 2 ของรถไฟฟ้สายสีม่วง ราคากลาง 1.26 หมื่นล้านบาท ซึ่งน่าจะทราบผลใน ช่วง 11 — 13 ก.พ.52 โดย ITD ,STEC และ CK รายใดรายหนึ่งน่าจะเป็นผู้ชนะการประมูล ฝ่ายวิจัยแนะนำ"ซื้อ"ITD และ STEC เนื่องจากราคายังต่ำกว่า Fair Value ส่วน CK แนะนำ"ขาย"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ