บล.ทิสโก้ มองดัชนีหุ้นไทยพีคช่วงมี.ค.ก่อนวูบลงแตะ 300 จุดใน H2/52

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 4, 2009 16:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิวัฒน์ เตชะพูลผล หัวหน้ากลยุทธ์การลงทุนและผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดลูกค้าส่วนบุคคล บล.ทิสโก้ มองว่า ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้มีโอกาสที่ดัชนีจะปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 510 จุดได้ โดยเฉพาะในช่วงปลายเดือนมี.ค.นี้อาจจะเห็นการปรับตัวแบบ peak ได้บ้าง เนื่องจากการอัดเม็ดเงินของภาครัฐจากมาตรการการเงินและการคลังเข้ามากระตุ้นทำให้ตลาดปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นได้บ้าง

"SET Index เดือนมี.ค.มีโอกาสที่จะเห็นการแกว่งตัวขึ้นจากแนวรับ 423 จุด ไปทดสอบที่แนวต้าน 510 จุด แต่ถ้าหากปรับตัวลดลงหลุดแนวรับ 423 จุดก็อาจะเห็นการลงต่อไปที่ 380 และ 300 จุดได้ เพราะในครึ่งปีหลังแทบจะไม่มีปัจจัยอะไรที่ดีเลยและหมดการเมืองช่วงฮันนีมูนข่าวดีไปแล้ว" นายวิวัฒน์ กล่าว

สำหรับครึ่งปีหลังที่มองว่าดัชนีจะปรับตัวลดลงไปต่ำสุดที่ 300 จุด เพราะมองว่าจะเป็นช่วงที่เฮดจ์ฟันด์ไถ่ถอนหน่วยลงทุนและจะทำให้สภาพคล่องตึงตัว ขณะเดียวกันยังมีตราสาร Credit Default Swap ที่มีมูลค่า 50 ล้านล้านเหรียญสหรัฐซึ่งอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับจีดีพีของโลกที่อยู่ที่ 56 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งตรงนี้ชี้ให้เห็นว่าสภาพคล่องถูกดูดให้แย่ลงและสภาพคล่องจะตึงตัวจากการที่ประเทศใช้งบประมาณขาดดุล จากปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวประเมินว่าอาจจะเห็นการล้มของแบงก์ในต่างประเทศ ยกเว้นแบงก์ในประเทศไทยที่จะไม่ล้มเนื่องจากมีการเพิ่มทุนไปแล้ว 1.3 ล้านล้านบาทในช่วงที่ผ่านมา

ครึ่งปีหลังมาตรการต่างๆ ใช้หมดไปแล้วในครึ่งปีแรกรวมถึงดอกเบี้ย ซึ่งปัจจัยดังกล่าวที่เข้ามากระทบทำให้ฝ่ายวิจัยมองกำไร บจ.ในปีนี้จะติดลบ 5-10%

สำหรับการลงทุนในปีนี้แนะนำให้เลือกหุ้นที่ได้รับผลประโยชน์จากมาตรการภาครัฐและราคาน้ำมันที่ยังมีแนวโน้มปรับตัวลดลง กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง อย่าง CK STEC จากต้นทุนที่ลดลง ซึ่งสอดคล้องกับการประเมินของนักวิชาการที่มองว่าราคาน้ำมันจะมีราคาถูกต่อเนื่องไปอีก 2 ปี รวมถึงราคาเหล็กด้วย รวมทั้งกลุ่มอุปโภคบริโภค CPALL MARKO BIGCO

ส่วนหุ้นที่ควรหลีกเลี่ยงการลงทุน PTT PTTEP LH AP และในกลุ่มส่งออก โดยมองว่าหุ้น PTT มีแนวโน้มที่ปันผลของปี 52 จะลดลงกว่าปี 51 ถึง 2 เท่า เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับที่ IMF ปรับประมาณการราคาน้ำมันในตลาดโลกในปีนี้ลงเหลือ 50-60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากเดิม 68-78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ