ฝ่าย บล.เอเซีย พลัส มองหุ้นบมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์(TTA)และบมจ.พรีเชียส ชิพปิ้ง(PSL)เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มเดินเรือ หลังธุรกิจเดินเรือกลับมาสดใสอีกครั้ง หลังประเทศจีนต้องหันมานำเข้าสินค้าธัญญพืชจากต่างประเทศโดยเร่งด่วน เนื่องจากประสบภาวะอากาศความแห้งแล้ง สร้างความเสียหายในพื้นที่เพาะปลูกการเกษตร 11 จังหวัด ทำให้ผลผลิตทางด้านอาหาร โดยเฉพาะธัญญพืช ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งจะผลักดันให้ดัชนี BDI มีโอกาสเดินหน้าต่อเนื่อง โดยคาดว่ามีโอกาสจะขึ้นไปทดสอบ 3000 จุด
ดัชนีค่าระวางเรือ BDI ปิดวานนี้ที่ 1498 บวก 182 จุด (13.83%)
อนึ่ง สินค้าธัญญพืช จัดเป็นสินค้าขนส่งทางทะเลผ่านเรือเทกอง ที่มีสัดส่วนสูงเป็นลำดับ 2 รองจากการขนส่งสินค้าประเภทสินแร่
ก่อนหน้านี้ ฝ่ายวิจัยได้คาดหมายไว้ก่อนแล้วก่อนหน้าแล้วว่ากลุ่มเดินเรือเทกองจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งหลังตรุษจีน เนื่องจากจีนจะกลับมาสั่งซื้อสินค้าประเภทสินแร่เหล็กและถ่านหินอีกครั้งหลังเทศกาลตรุษจีนเพื่อสะสมสินค้าคงคลังอีกครั้ง เพราะราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ตกต่ำจนอยู่ในระดับที่จูงใจ และภายหลังชะลอการซื้อมาระยะหนึ่ง
ทั้งนี้ ให้ราคา FV ของ TTA ที่ 21.3 บาท และ PSL ที่ 15.2
ด้านบล.ธนชาต คาดว่าการฟื้นตัวขึ้นของ BDI ไม่น่าจะยืนอยู่ได้นาน ปัจจุบันยังคงมีเรือรอการขนส่งอยู่ และเชื่อว่าเรือเหล่านี้จะเริ่มเข้ามายังตลาด เมื่ออัตราค่าระวางสูงขึ้น เหนือจุดคุ้มทุน
นอกจากนี้ ความกังวลอีกประการ คือ ปริมาณบรรทุก การเพิ่มขึ้นของ BDI ไม่ได้หมายความว่าเจ้าของเรือจะสามารถดำเนินการขนส่งได้อย่างเต็มปริมาณบรรทุกที่มีอยู่ ซึ่งหมายความว่าอัตรากำไรของพวกเขาจึงยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันไปอีก
การเพิ่มขึ้นของ BDI ในปัจจุบัน น่าจะเป็นปัจจัยหลักผลักดันราคาหุ้นเดินเรือในระยะสั้น ดังนั้นไม่แนะนำนักลงทุนระยะยาวรีบเข้าซื้อหุ้นในขณะนี้