ราคาหุ้น บมจ.เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (MPIC) ปรับขึ้น 1.38% หรือ บวก 0.02 บาท มาที่ 1.47 บาท(เมื่อเวลา 12.27 น.) โดยราคาหุ้นได้ขึ้นไปสูงสุดที่ 1.59 บาท เมื่อ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา
นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.แอ๊ดคินซัน(ASL) มองว่า จากการพิจารณาปัจจัยบริษัทของ MPIC มีความเป็นไปได้สำหรับกระแสข่าวที่ว่าอาจมีผู้ร่วมทุน หรืออาจจะมีการขายหุ้นบางส่วนให้กับพาร์ทเนอร์ใหม่ หรืออาจจะเห็นการเทกโอเวอร์โดยขายหุ้นให้นักลงทุนกลุ่มใหม่ ซึ่งจะเป็นใครก็ยังไม่รู้
เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นไปได้ คือการเจรจา และอาจมีการขายหุ้นบางส่วน หรือ MPIC อาจจะเพิ่มทุนให้ในราคาพาร์หรือราคาอื่นที่ตกลงกัน
"ข้อเท็จริงไม่รู้ แต่ดูตัวบริษัทเองอยู่ด้วยตัวเองไม่ได้หรอก ถ้าธุรกิจจะต้องไปคุณก็ต้องหาใครมาช่วย ซึ่งถ้าเราประเมินในแง่ปัจจัยก็น่าจะเป็นอย่างนั้น ส่วนจะเป็นใคร ราคาไหน อะไรยังไง บอกไม่ได้...อาจจะมาหรือไม่มาก็ได้ แต่มองในแง่บริษัทเขาก็ต้องก้าวหน้าต่อไป คือข่าวเป็นไปได้ แต่เราไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นจริงหรือเปล่าและเมื่อไร เป็นใคร" นายรณกฤต กล่าว
ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวผ่านหน้าหนังสือพิมพ์ว่า ยักษ์ใหญ่วงการฮอลลีวูดเข้ามาเทกโอเวอร์ โดยตั้งเป้าเข้าถือหุ้นให้ได้ถึง 51% โดยคาดว่าจะมีการรับซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นใหญ่รายหนึ่งที่ราคา 2.50 บาท
นายรณกฤต กล่าวว่า ราคาคงขึ้นอยู่กับการเจรจา ไม่มีใครบอกได้ แต่ราคาเทคโอเวอร์ที่มีกระแสข่าวออกมาที่ 2.50 บาท/หุ้น ดูจะมากเกินไป เพราะมูลค่าบริษัทเองประมาณหุ้นละ 1 บาท และผลประกอบการก็ยังมีขาดทุนสะสมอยู่ จึงเห็นกว่า การเจรจาซื้อขายกันที่ราคา 2 บาทกว่าคงเป็นไปไม่ได้ ซึ่งอาจจะซื้อโครงบริษัทมา เพราะบริษัทไม่มี value อะไร จึงไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะเช้ามาซื้อที่ราคา 2.50 บาท/หุ้น สู้ซื้อในกระดานก็ได้ หรือทำเทนเดอร์ ออฟเฟอร์ จะได้ราคาต่ำกว่านี้
"โดยธุรกิจของบริษัท เป็นไปได้ว่า ผู้ถือหุ้นเดิมอาจจขายหุ้นบางส่วงนให้พาร์ทเนอร์ หรือร่วมทุน เป็นไปได้หมด มีโอกาสเป็นไปได้ ระดับหนึ่ง แต่ราคาขาย 2 บาทกว่า ข่าวอาจเว่อร์ไป คือดูบริษัทไม่ได้มี value อะไรเลย คนที่จะมาซื้อก็คงต้องคิดหนัก เพราะซื้อก็เหมือนเอาโครงไป" นายรณกฤติกล่ว
อย่างไรก็ดี วานนี้ นายเผด็จ หงษ์ฟ้า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MPIC แจ้งว่า ได้สอบถามผู้ถือหุ้นใหญ่ คือบมจ. เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป (MAJOR) ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้รับการติดต่อ หรือมีการเจรจากับบริษัทยักษ์ฮอลลีวู้ด ตามที่มีข่าวกรณีนักลงทุนต่างชาติสนใจเป็นพันธมิตรกับ MPIC
แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์ต่างประเทศรายหนึ่ง เปิดเผยว่า มีกระแสข่าวในห้องค้าว่านักลงทุนสถาบันจากดูไบและกลุ่มพันธมิตรเข้าเก็บหุ้น MPIC แล้วกว่า 20% และหากได้ครบ 25% ก็จะทำเทนเดอร์ฯประมาณช่วงต้นเดือน มี.ค.นี้ โดยกองทุนจากดูไบดังกล่าวมีเครือข่ายลงทุนในกองทุนประเทศต่างประเทศ และธุรกิจเพื่อการลงทุนอีกหลายแห่ง รวมไปถึงธุรกิจบันเทิงยักษ์ใหญ่ในสหรัฐที่กำลังต้องการขยายฐานด้านโฮมเอ็นเตอร์เทนเมนท์ในภูมิภาคอินโดจีน
ด้านสถาบันวิจัยนครหลวงไทย ประเมินว่า การที่บริษัทต่างประเทศมีความสนใจ MPIC เนื่องจากโครงสร้างธุรกิจที่มีผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง MAJOR (สัดส่วน 40.8%) ซึ่งเป็นผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์รายใหญ่ของประเทศซึ่งถือว่าเป็นช่องทางในการจัดจำหน่ายภาพยนตร์ช่องทางแรกที่สำคัญในการสร้างรายได้ให้กับผู้ผลิตภาพยนตร์ของฮอลลีวูด
อีกทั้ง ผู้บริหารของ MPIC โดยเฉพาะ คุณเผด็จ หงษ์ฟ้า(ประธานกรรมการ) มีความชำนาญในธุรกิจการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ต่างประเทศเป็นอย่างดี
อย่างไรก็ดี ธุรกิจการขายภาพยนตร์ลิขสิทธิ์ซึ่งเป็นรายได้หลักของ MPIC ยังมีปัจจัยเสี่ยง คือ สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้รายได้จากของ MPIC ไม่เป็นไปตามคาดหมายและมีสัญญาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ในระดับที่สูง