นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์ระหว่างการเดินทางร่วมคณะของนายกรัฐมนตรีไปโรดโชว์ที่ประเทศญี่ปุ่นว่า ได้รับความสนใจจากผู้ร่วมรับฟังข้อมูลกว่า 1 พันราย ซึ่งมาจากภาคธุรกิจ ภาคสถาบันการเงิน และผู้จัดการกองทุนต่าง ๆ
ทางการไทยได้นำเสนอข้อมูลต่าง ๆ ต่อนักลงทุนญี่ปุ่น โดยเฉพาะภาวะเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ซึ่งถือว่าดีกว่าช่วงที่ไทยเกิดวิกฤติการเงินในปี 40 ประกอบกับ ภาคสถาบันการเงินของไทยขณะนี้ยังมีงบการเงินแข็งแกร่ง และมีผลประกอบการที่มีกำไรเติบโต 15-20%
นอกจากนั้น ตลาดหุ้นไทยยังมีราคาต่ำ โดยมี พี/อี อยู่ที่แค่ 6.62 เท่า เมื่อเทียบกับประเทศมาเลเซีย ค่าพี/อีอยู่ที่ 10.60% และ ฟิลิปปินส์ พี/อี 9.35 เท่า ขณะที่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยกลับมีอัตราการจ่ายเงินปันผลเฉลี่ยในระดับ 7.48% เทียบกับฟิลิปปินส์ที่มี 6.31% สิงคโปร์ อยู่ที่ระดับ 6.32% (ข้อมูล ณ 2 ก.พ. 52)
"การนำเสนอครั้งนี้ไม่ได้มีการสอบถามเฉพาะเจาะจงในเรื่องตลาดทุน เพราะการไปครั้งนี้เราให้เขาเห็นถึงภาพใหญ่ของประเทศ แต่ในช่วงปลายเดือนนี้ ที่ทางไดวาซีเคียวริตี้ชวนเราไปจะสามารถชี้เฉพาะในเรื่องของตลาดทุนได้มากกว่าและบจ.ไทยจะมีการเข่าร่วมเหมือนกัน" นางภัทรียา กล่าว
อย่างไรก็ตาม ผู้เข่าร่วมสัมนาได้สอบถามประเด็นเกี่ยวกับกฎหมายการลงทุนสำหรับนักลงทุนต่างประเทศ โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า รัฐบาลจะไม่มีการแก้ไข เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคในการลงทุน ส่วนประแด็๋นการเมือง นายกรัฐมนตรีได้ให้ความมั่นใจว่า ประเทศไทย สามารถดำเนินนโยบายไว้ได้โดยไม่มีปัญหา และจะเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยเร็ว