บมจ.บางจากปิโตรเลียม(BCP)คาดว่า รายได้ในช่วงไตรมาส 1/52 ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากปริมาณการใช้น้ำมันมีเพิ่มขึ้น โดยในช่วง ธ.ค.51- ม.ค. 52 มีอัตราเติบโตสูงกว่า 20% เนื่องจากเป็่นช่วงฤดูท่องเที่ยวและราคาน้ำมันปรับตัวลดลง ทำให้มีปริมาณใช้เพิ่มขึ้น
แต่ทั้งปีคาดว่าปริมาณการใช้น้ำมันคงจะไม่เติบโต เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอส่งผลต่อภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ทำให้ปริมาณใช้น้ำมันในประเทศลดลงตามไปด้วย
ขณะที่นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการ BCP คาดว่า EBITDA ของบริษัทในปีนี้จะอยู่ที่ราว 6-8 พันล้านบาท หลังโครงการปรับปรุงคุณภาพการกลั่นน้ำมัน(PQI) แล้วเสร็จ โดยค่าการตลาดคงจะใกล้เคียงกับปีก่อนที่อยู่ที่ 1.50 บาท/ลิตร พร้อมทั้งยืนยันว่า ปีนี้คงไม่มีการขาดทุนจากการสต๊อคน้ำมันแล้ว
ทั้งนี้ โครงการ PQI อยู่ระหว่างทดสอบระบบและต่อเชื่อมระบบ ทำให้ต้องปิดการผลิตในโรงกลั่นบางส่วน แต่บริษัทก็ยังมีปริมาณการขายเพิ่มขึ้น โดยได้นำเข้าน้ำมันเบนซินในช่วงเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาประมาณ 10 ล้านลิตรเข้ามาทดแทน และในเดือนก.พ.คาดจะนำเข้าอีก 10 ล่านลิตร เนื่องจากความต้องการในประเทศเติบโตมาก ขณะที่โรงกลั่นยังผลิตได้ไม่เพียงพอ
"ผมคิดว่าปีนี้ไม่น่าจะมี stock loss รุนแรงเหมือนปีที่ผ่านมา และปีนี้ EBITDAอย่างน้อยๆ น่าจะได้ 6-8 พันล้านบาท จากหน่วยผลิต PQI แต่ก็ยอมรับว่าเคยตั้งว่าจะมี EBITDA ไม่ต่ำกว่า 8 พันล้านบาท แต่เมื่อราคาน้ำมันอยู่ในขาลง แค่นี้ก็ถือว่าพอใจแล้ว" นายอนุสรณ์ กล่าว
ส่วนค่าการกลั่นของบริษัทในปี 52 คาดว่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 6 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ดี แม้จะต่ำกว่าปีก่อนที่ค่าการกลั่นอยู่ที่ระดับ 7 เหรียญ/บาร์เรล เพราะบริษัทได้ทำประกันราคาการกลั่นล่วงหน้าไว้ระดับสูง และเชื่อว่าธุรกิจโรงกลั่นของบริษัทในปีนี้จะไม่ติดลบ
ส่วนผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน(stock loss) อาจจะยังมีบ้างแต่ไม่มาก เพราะเชื่อว่า ในช่วง ก.พ.-มี.ค. อาจจะมีกำไรจากสต็อกน้ำมันจากราคาน้ำมั้นเริ่มปรับตัวสูงขึ้น แต่เมื่อดูภาพรวมที่โรงกลั่นเป็นธุรกิจขาลง ประเมินว่าค่าการกลั่นโดยรวมจะเฉลี่ยอยู่ที่ 5-7 เหรียญ/บาร์เรล
นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ในส่วนุกิจค้าปลีกน้ำมัน ในปี 52 บริษัทคาดว่าค่าการตลาดจะอยู่ที่ 1.50 บาทม/ลิตรใกล้เคียงกับปีก่อน แม้ว่าในช่วง ม.ค.ปีที่แล้วจะมีการปรบขึ้นราคาน้ำมันอย่างต่อเนื่อง แต่ค่าการตลาดเฉลี่ยยังอยู่ที่ 1.40 บาท/ลิตร และมองแนวโน้มระยะสั้น ราคาน้ำมันในจตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก แต่สัปดาห์นี้จะไม่มีการปรับเพิ่มขึ้นราคาน้ำมันจนถึงสัปดาห์หน้า เพื่อรอดูผลจากการยกเลิกลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันก่อน