นายอารีพงษ์ ภู่ชะอุ่ม ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางบมจ.การบินไทย (THAI) ยังไม่ได้มีการเสนอขอให้กระทรวงการคลังค้ำประกันเงินกู้ เพื่อแก้ปัญหาขาดสภาพคล่อง ดังนั้นคลังจะค้ำเงินกู้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการจัดทำแผนฟื้นฟู ขณะเดียวกันแผนฟื้นฟูจะต้องสร้างความมั่นใจให้กับสถาบันการเงินที่จะขอเงินกู้ด้วย
และ ในสัปดาห์หน้า คณะกรรมการ THAI จะมีการหารือถึงแนวทางแก้ปัญหาขององค์กร ซึ่งปัญหาระยะสั้นคงต้องมีการพิจารณาเกี่ยวกับปัญหาการขาดสภาพคล่อง เนื่องจากบริษัทฯ มีปัญหาเรื่องโครงสร้างทางการเงินจากการก่อหนี้เงินกู้ระยะสั้นมากเกินไป และเมื่อเกิดปัญหาการปิดสนามบิน ทำให้การคาดการณ์รายได้ที่คาดว่าจากจำนวนนักท่องเที่ยวช่วง ธ.ค.51-ก.พ.52 ไม่ได้ตามเป้าหมาย
นอกจากนี้ สัดส่วนหนี้สินต่อทุนของ THAI อยู่ที่ 3:1 เท่า ซึ่งสูงมาก บริษัทฯ จำเป็นต้องหาแนวทางลดสัดส่วนหนี้สินต่อทุนให้เหลือ 1 เท่ากว่า เช่นเดียวกับธุรกิจการบินอื่นๆ แนวทางการลดสัดส่วนหนี้ต่อทุนทำได้ทั้งการลดหนี้ หรือการเพิ่มทุน
ส่วนในระยะยาว ฝ่ายบริหารต้องมีการทำงานที่รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อปรับแผนการทำงานให้รองรับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ทันสถานการณ์ มีการบริหารต้นทุนอย่างเหมาะสม และหารายได้เพิ่มขึ้นจากศักยภาพที่มีอยู่
"รายได้ของ THAI ปี 51 ที่ลดลง 20-30% ไม่ถือว่าผิดปกติ แต่ปัญหาเกิดจากการวางโครงสร้างการเงินไม่เหมาะสม มีเงินกู้ระยะสั้นมากเกินไป จนเกิดปัญหาขาดสภาพคล่อง ก็ต้องมาดูว่าจะลดค่าใช้จ่าย ชะลอการลงทุนอย่างไร และจะเพิ่มรายได้ตรงไหน...บอร์ดก็จะต้องพิจารณาจัดทำแผนฟื้นฟูให้ชัดเจน" นายอารีพงษ์ กล่าว
ส่วนการเปลี่ยนแปลงบอร์ด THAI นั้นจะมีการพิจารณาในการประชุมผู้ถือหุ้นในเดือน เม.ย.นี้ ซึ่งส่วนหนึ่งของวาระการประชุมที่เป็นไปตามระเบียบการเป็นบริษัทจดทะเบียนจะต้องพิจารณาเรื่องการปรับเปลี่ยนบอร์ด 1 ใน 3 ขณะที่นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง มีนโยบายชัดเจนเกี่ยวกับการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจที่ต้องโปร่งใส ปราศจากการถูกแทรกแซงทางการเมือง ซึ่งยอมรับว่า ส่วนหนึ่งต้องเกี่ยวข้องกับบอร์ดด้วย