ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (9 ก.พ.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ซบเซา เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่วุฒิสภาสหรัฐจะลงมติแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจในวันอังคารที่ 10 ก.พ. นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากตัวเลขจ้างงานที่ร่วงลงอย่างหนักในสหรัฐ
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 9.72 จุด หรือ 12% แตะที่ 8,270.87 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 index ปิดบวก 1.29 จุด หรือ 0.15% แตะที่ 869.89 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลบ 0.15 จุด หรือ 0.01% แตะที่ 1,591.56 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.26 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 8 ต่อ 7
คริส จอห์นสัน นักวิเคราะห์จากจอห์นสัน รีเสิร์ช กรุ๊ป กล่าวว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวน หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานประจำเดือนม.ค. ร่วงลง 598,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นสถิติที่ร่วงลงหนักสุดในรอบ 35 ปี และรุนแรงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 524,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานพุ่งขึ้นแตะระดับ 7.6% เมื่อเทียบกับระดับ 7.2% ในเดือนธ.ค. และทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปี 2535 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้กดดันนายจ้างให้ต้องปรับลดจำนวนพนักงาน
ข้อมูลดังกล่าวเป็นหลักฐานที่บ่งชี้ชัดเจนว่า ตลาดแรงงานในสหรัฐกำลังเข้าขั้นวิกฤติและกดดันให้สภาคองเกรสและคณะทำงานของประธานาธิบดีบารัค โอบามาจำเป็นต้องผ่านแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและกำหนดแผนช่วยเหลือภาคการเงินโดยเร็ว ทั้งนี้ โอบามาเชื่อว่าแผนฟื้นฟูมูลค่าเกือบ 9 แสนล้านดอลลาร์ที่เขาได้เสนอไปนั้นจะสามารถช่วยเหลือชาวอเมริกันที่ตกงานอยู่ 3.6 ล้านคนนับตั้งแต่เศรษฐกิจเริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอยได้
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา วุฒิสภาสหรัฐบรรลุข้อตกลงในการประนีประนอมเพื่อผ่านแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังจากวุฒิสมาชิกสายเดโมแครตเห็นพ้องที่จะปรับลดวงเงินของแผนดังกล่าวลงสู่ระดับ 8 แสนล้านดอลลาร์ จากเดิม 9.37 แสนล้านดอลลาร์ และจะมีการลงมติในช่วงเที่ยงของวันอังคารที่ 10 ก.พ.ตามเวลาสหรัฐ หรือเที่ยงคืนตามเวลาไทย
พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา โดยมี 58 เสียง และจำเป็นต้องรวบรวมเสียงให้ได้ 60 เสียงที่จำเป็นสำหรับการผ่านแผนฟื้นฟุเศรษฐกิจจากวุฒิสภาที่มีคะแนนเสียงรวม 100 เสียง ดังนั้นจึงต้องการเสียงจากวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันเพียง 2 เสียงเท่านั้นในการสนับสนุนแผนฉบับนี้
นักลงทุนจับตาดูเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการเงินแห่งสภาคองเกรส เกี่ยวกับความพยายามที่เขามีต่อการทบทวนมาตรการปล่อยกู้ในช่วงที่วิกฤติเศรษฐกิจลุกลามไปทั่วประเทศ
บริษัท นิสสัน มอเตอร์ ประกาศว่าบริษัทจะปลดพนักงาน 20,000 ตำแหน่งทั่วโลก หรือ 8.5%ของอัตราจ้างงานทั้งหมดในองค์กร ภายใน 2 ปีข้างหน้านี้ เพื่อรับมือกับการขาดทุนครั้งแรกในรอบ 9 ปี
หุ้นกลุ่มการเงินดีดตัวขึ้นและเป็นปัจจัยสำคัญที่พยุงดาวโจนส์ไม่ให้ติดลบมากนัก โดยหุ้นแบงค์ ออฟ อเมริกาพุ่งขึ้น 12.4% ส่วนหุ้นเจนเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) ดีดขึ้น 13.9%