บลจ. เอ็มเอฟซี (MFC) ตั้งเป้าหมายมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ(NAV)ในปี 52 เติบโตราว 20% มาที่ 260,000 ล้านบาท พร้อมทั้งคาดว่าจะทำรายได้ประมาณ 670 ล้านบาทและจะมีกำไรต่อเนื่องจากปีก่อนที่กำไรน่าจะออกมาใกล้เคียงกับปี 50 ที่ 115 ล้านบาท
นายพิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ MFC กล่าวว่า จากสภาวะวิกฤติเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกในช่วงปี 51 ไม่ได้ส่งผลกระทบรุนแรงต่อ MFC มากนัก โดยผลประกอบการของบริษัทคาดว่ากำไรเติบโตขึ้น อีกทั้ง NAV ก็ไม่ลดลงมากเมื่อเทียบกับภาวะเศรษฐกิจและตลาดที่มีความผันผวนสูง โดย NAV ลดลงจาก 218,857.20 ล้านบาทในปี 50 เป็น 216,474.37 ล้านบาทในปี 51
กำไรของบริษัทมาจากการดำเนินการตามกลยุทธ์ที่วางไว้ได้อย่างเหมาะสม ได้แก่ การสร้างรายได้จากธุรกิจภายใต้การจัดการหลายประเภท (Diversification) การออกผลิตภัณฑ์กองทุนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ และสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน รวมทั้งการลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายตั้งแต่กลางปี 51 โดยยังคงให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพการทำงาน และการบริหารกองทุน เพื่อผลตอบแทนที่น่าพอใจของลูกค้า
ในปีนี้ MFC มีแผนออกกองทุนใหม่ประมาณ 22 กองทุน จาก 19 กองทุนในปี 51 แบ่งเป็น กองทุนรวมตราสารทุนและกองทุนผสมแบบยืดหยุ่น 7 กองทุน กองทุนรวมตราสารหนี้ 5 กองทุน กองทุนต่างประเทศ 6 กองทุน และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ 4 กองทุน โดยในไตรมาส 1/52 คาดว่าจะเปิดขายกองทุน 5-6 กองทุน ซึ่งครอบคลุมทั้งกองทุนตราสารหนี้ กองทุนตราสารทุน กองทุนรวมต่างประเทศ และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์
บริษัทจะเน้นกลยุทธ์ด้านธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพเพื่อเพิ่มรายได้ โดยมีแผนขยายธุรกิจด้านที่ปรึกษาการเงิน โดยเฉพาะการรองรับโครงการต่างๆ ของภาครัฐที่จะทำต่อเนื่องจากปี 51 เช่น โครงการ Infrastructure Fund โครงการรถไฟรางคู่ เป็นต้น ในส่วนของ Private Equity ในปีนี้กองทุนเปิด MFC Energy Fund มีแผนงานที่จะศึกษาโครงการประมาณ 36 โครงการ และขยายการลงทุนอีกประมาณ 800 ล้านบาท
ส่วนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ บริษัทคาดว่าจะจัดตั้งกองทุน 3-4 กองทุน มูลค่ารวมกันประมาณ 5,000-6,000 ล้านบาท โดยลงทุนในอาคารสำนักงาน อาคารอุตสาหกรรมให้เช่า อาคารเซอร์วิสอพาร์ตเม้นท์ ฯลฯ
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนงานขยายธุรกิจ โดยเป็นแผนต่อเนื่องมาจากปี 51 ได้แก่ บริษัท Thai EXIM International ทำธุรกิจด้านที่ปรึกษาการลงทุน และ Trading Facilitator บริษัท MRAM (MFC Real Estate Management) ให้บริการด้านการจัดการโครงการอสังหาริมทรัพย์ และบริษัท MFA (MFC Financial Advisory) ให้คำปรึกษาด้านการสรรหาบริษัทร่วมลงทุน และที่ปรึกษาทางการเงินให้กับโครงการของภาครัฐและเอกชน
สำหรับทิศทางการดำเนินงานของบริษัท บริษัทยังคงตอกย้ำเป้าหมายการขึ้นแท่นเป็น 1 ใน 3 บริษัทชั้นนำด้านการบริหารความมั่งคั่งและการให้บริการที่เป็นเลิศในระดับภูมิภาคภายในปี 2555 และเป็นบริษัทจัดการกองทุนชั้นนำที่มีอัตราการเติบโตเป็น 2 เท่าภายใน 5 ปี ด้วยมูลค่าสินทรัพย์สุทธิภายใต้การจัดการ (NAV) รวมกว่า 450,000 ล้านบาท จากการสร้างธุรกิจใหม่ในประเทศ และขยายธุรกิจต่างประเทศให้มีรายได้กว่าครึ่งหนึ่งของรายได้ทั้งหมดของบริษัท