ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กวิตกแผนฟื้นฟูภาคการเงิน กระหน่ำดาวโจนส์ปิดร่วง 381.99 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 11, 2009 06:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 380 จุดเมื่อคืนนี้ (10 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นอย่างหนักเพราะไม่มั่นใจในแผนฟื้นฟูภาคการเงิน โดยตลาดถูกแรงขายกระหน่ำตลอดทั้งวันแม้วุฒิสภาสหรัฐมีมติผ่านมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจของคณะทำงานบารัค โอบามาก็ตาม

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วงลง 381.99 จุด หรือ 4.62% แตะที่ 7,888.88 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 42.73 จุด หรือ 4.91% แตะที่ 827.16 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดร่วง 66.83 จุด หรือ 4.20% แตะที่ 1,524.73 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.74 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 11 ต่อ 2 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.45 พันล้านหุ้น

กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยแผนช่วยเหลือภาคการเงิน ซึ่งครอบคลุมถึงการจัดสรรงบประมาณ 2 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพของธนาคารและกระตุ้นการปล่อยกู้ให้กับผู้บริโภค แต่นักลงทุนผิดหวังที่กระทรวงการคลังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเรื่องการแก้ไขหรือจัดการกับสินทรัพย์ด้อยคุณภาพในระบบการเงิน จึงทำให้เกิดแรงขายในหุ้นกลุ่มการเงินและฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงอย่างหนัก

เจมส์ ค็อกซ์ นักวิเคราะห์จากแฮร์ริส ไฟแนนเชียล กรุ๊ป กล่าวว่า "แผนฟื้นฟูภาคการเงินดูเหมือนเป็นข่าวดีที่กระทรวงการคลังสหรัฐทุ่มเทงบประมาณหลายแสนล้านดอลลาร์ แต่ข่าวร้ายก็คือรัฐบาลไม่รู้ว่าจะแก้ไขปัญหาในระบบการเงินให้หมดไปอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้ทำให้นักลงทุนกังวลใจอย่างยิ่ง เพราะการทุ่มงบประมาณมหาศาลเหล่านี้เป็นเพียงการแก้ไขที่ปลายเหตุเท่านั้น"

ทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลัง มีเป้าหมายที่จะใช้มาตรการฟื้นฟูสถาบันการเงิน ซึ่งรวมถึงการจูงใจนักลงทุนเอกชนให้เข้าซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์ และแผนการสกัดกั้นการยึดบ้านติดจำนอง โดยแผนการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของเงินงบประมาณงวดที่ 2 ที่อยู่ในโครงการลดสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (TARP) วงเงิน 7 แสนล้านดอลลาร์

นักลงทุนแทบจะไม่ให้ความสนใจกับรายงานข่าวที่ว่า วุฒิสภาสหรัฐลงมติด้วยคะแนนเสียง 61 ต่อ 37 ผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ มูลค่า 8.38 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐแล้ว เพื่อปูทางให้ประธานาธิบดีโอบามา ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไปให้ทันวันที่ 16 ก.พ.นี้ ซึ่งการลงมติครั้งนี้เป็นไปตามที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ หลังจาก ประธานาธิบดีโอบามากล่าวในงานแถลงข่าวสื่อมวลชนครั้งแรกนับตั้งแต่ก้าวเข้ารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจเผชิญกับหายนะและจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลต้องใช้มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจเพื่อสร้างงานให้กับประชาชน

นอกจากนี้ นักลงทุนยังผิดหวังต่อเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ไม่ได้แถลงแนวทางการแก้ไขปัญหาในระบบการเงินต่อคณะกรรมาธิการด้านการเงินแห่งวุฒิสภา แต่กล่าวเพียงว่าแผนการต่างๆที่เฟดนำมาใช้นั้นมีเป้าหมายที่จะฟื้นฟูตลาดสินเชื่อ และการแก้ไขวิกฤตการณ์ด้านการเงินจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง

หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ร่วงกว่า 19% หุ้นเจพีมอร์แกนดิ่งลง 9.8% และหุ้นซิตี้กรุ๊ปร่วงลง15.2%

ส่วนหุ้นแมคโดนัลด์ร่วงลง 2.6% หุ้นวอล-มาร์ท ดิ่งลง 4.3%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ