ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.) อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นรับแรงหนุนจากความหวังที่ว่ากลุ่มเจ้าของบ้านในสหรัฐจะได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐ หลังจากมีข่าวว่ารัฐบาลสหรัฐกำลังใช้นโยบายช่วยเหลือเจ้าของบ้านที่ประสบปัญหาในการชำระหนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ดีเกินคาด รวมถึงยอดค้าปลีกและตัวเลขว่างงาน
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 6.77 จุด หรือ 0.09% แตะที่ 7,932.76 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 1.45 จุด หรือ 0.17% แตะที่ 835.19 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 11.21 จุด หรือ 0.73% แตะที่ 1,541.71 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.48 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 11 ต่อ 10 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.47 พันล้านหุ้น
โจ คีทเทิล นักวิเคราะห์จากบริษัท ดอร์สันเวลธ์ เมเนจเมนท์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่ารัฐบาลสหรัฐกำลังใช้นโยบายช่วยเหลือเจ้าของบ้านที่ประสบปัญหาในการชำระหนี้ โดยเฉพาะกลุ่มเจ้าของบ้านที่ถูกเลย์ออฟ แม้สำนักงานบริหารด้านการเงินแห่งการเคหะแห่งชาติของสหรัฐปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นต่อข่าวดังกล่าวก็ตาม
คีทเทิลกล่าวว่า ข่าวการให้ความช่วยเหลือเจ้าของบ้านส่งผลกระทบในด้านบวกต่อนักลงทุนมากกว่าข่าวที่ว่าสมาชิกวุฒิสภาบรรลุข้อตกลงประนีประนอมมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงิน 7.89 แสนล้านดอลลาร์ และจะมีการลงมติในขั้นตอนสุดท้ายก่อนที่จะส่งให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป
หลังจากสมาชิกทั้ง 2 สภาใช้เวลาต่อรองและอภิปรายร่างมาตรการฟื้นฟูมูลค่า 7.89 แสนล้านดอลลาร์เป็นเวลาหลายสัปดาห์ ในที่สุดนายแฮร์รี รี้ด ผู้นำเสียงข้างมากของวุฒิสภาสหรัฐเปิดเผยว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภายอมตกลงประนีประนอมมาตรการฟื้นฟูฉบับดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นการจ้างงานได้ถึง 3.5 ล้านตำแหน่ง
สตีเว่น ริค นักวิเคราะห์จากเครดิต ยูเนี่ยน เนชั่นเนล แอซโซซิเอชั่นกล่าวว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 70% ของระบบเศรษฐกิจอาจยังคงหดตัวอย่างต่อเนื่องไปจนถึงกลางปีนี้ โดยคาดว่าในเดือนม.ค.ตัวเลขดังกล่าวจะลดลง 0.4% เป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน ซึ่งทางสภานิติบัญญัติสหรัฐตั้งเป้ากระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจด้วยการใช้มาตรการมูลค่า 7.89 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐที่จะช่วยให้เกิดการจ้างงานใหม่ 3.5 ล้านตำแหน่ง
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการในระหว่างว่างงาน ลดลง 8,000 ราย เหลือเพียง 623,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 ก.พ. ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 1% ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือนและเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2551 หลังร่วง 3% ในเดือนธ.ค.
หุ้นโคคา-โคลา ดีดขึ้น 7.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 4 ที่ดีเกินคาด ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี รวมถึงหุ้นแอปเปิล และหุ้นรีเสิร์ช อิน โมชั่น ทะยานขึ้น ซึ่งช่วยหนุนดัชนี Nasdaq ปิดในแดนบวก