นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย(SCIB) เปิดเผยว่า ธนาคารว่าจ้าง บล.ภัทร(PHATRA)เป็นที่ปรึกษาการจัดทำแผนปรับโครงสร้างเงินกองทุน โดยในเร็วๆนี้จะเข้าไปหารือกับกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินในฐานผู้ถือหุ้นใหญ่ และคาดว่าภายในสิ้นเดือนมี.ค.นี้จะได้ข้อสรุปเบื้องต้นของแผน
ทั้งนี้ ธนาคารต้องการเพิ่มเงินต่อสินทรัพย์เสี่ยง(BIS) เป็น 13-14% จากปัจจุบันอยู่ที่ 11-12% แต่ยังไม่รวมกำไรมูลค่า 3,800 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา และมีเงินกองทุนขั้นที่ 2 ในระดับ 0.8%
อย่างไรก็ตามธนาคารคงต้องระดมเงินทุนภายในประเทศเป็นหลักเพราะตลาดต่างประเทศปิดจากปัญหาวิกฤติการเงินสหรัฐ โดยขณะนี้ธนาคารได้รับวงเงินออกหุ้นกู้มูลค่ากว่า 80,000 ล้านบาทจากคณะกรรมการธนาคารแล้ว
นายชัยวัฒน์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ธนาคารปรับเป้าหมายการเติบโตสินเชื่อรวมในปีนี้เหลือ 6-7% หรือคิดเป็นเม็ดเงิน 18,000 ล้านบาทจากเป้าหมายเดิม 8-9% หรือ 20,000 ล้านบาท เพื่อให้สอดคล้องกับอัตราการเจริญเติบโตเศรษฐกิจ(จีดีพี) ซึ่งคาดว่าจะขยายตัวชะลอลงจาก 3-3.8%เหลือ 0-2% ขณะที่สินเชื่อทั้งระบบจะเติบโต 4-5% ลดลงจากประมาณการเดิมที่ 5-6%
สำหรับการเติบโตสินเชื่อส่วนใหญ่จะมาจากสินเชื่อรายย่อยมากขึ้น จากการปรับฐานสินเชื่อรายใหญ่ในส่วนของรัฐวิสาหกิจให้มาใช้บริการสินเชื่อรายย่อยเพิ่มขึ้น ขณะที่สินเชื่อเอสเอ็มอีจะเพิ่มสัดส่วนเป็น 30-40% ของฐานสินเชื่อรวม
“ ในปีนี้การขยายสินเชื่อธนาคารยังให้ความระมัดระวังต่อการเร่งตัวของหนี้เสียมากขึ้นเช่นเดิม ซึ่งในช่วง2เดือนแรกของปีนี้นี้การเติบโตสินเชื่อค่อนข้างชะลอตัว แต่สินเชื่อรายย่อยของธนาคารกลับเติบโตในอัตราสูง” นายชัยวัฒน์ กล่าว
ธนาคารตั้งเป้าระดมเงินฝากในปีนี้ให้เติบโตในระดับเดียวกับตลาดรวมคือสูงกว่า 10% โดยล่าสุดเปิดตัวแคมเปญเงินฝากออมทรัพย์บุฟเฟต์ปี 52 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ตั้งเป้าระดมเงินฝากดังกล่าวราว 3 พันล้านบาท