ดอยช์แบงค์คาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียจะร่วงลงอีกในปีนี้ เนื่องจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจชะลอตัวลง และผลประกอบการที่ย่ำแย่ของภาคเอกชน
ทั้งนี้ ดอยช์แบงค์คาดว่า ดัชนี MSCI AC Asia ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดภาวะตลาดหุ้นในเอเชีย (ยกเว้นญี่ปุ่น) จะร่วงลง 9% แตะที่ 240.7 จุดในปีนี้ โดยตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ดัชนีดิ่งลงไปแล้ว 3.3% หลังจากทรุดตัวลงหนักสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 54% ในปี 2551
"ตลาดหุ้นเอเชียมีแนวโน้มซบเซา โดยในเบื้องต้นเราวิเคราะห์ว่าเป็นผลมาจากความกังวลเรื่องผลประกอบการภาคเอกชนและตัวเลขจีดีพี โดยผลกำไรต่อหุ้นของบริษัทเอกชนร่วงลง 17% ในปี 2551 และคาดว่าจะหดตัวลงอีก 13% ในปีนี้ ก่อนที่จะดีดตัวขึ้น 19% ในปีหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย" นิโคลัส โอลอสสัน นักวิเคราะห์ของดอยช์ แบงค์กล่าว
รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในช่วงเช้าวันนี้ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ปี 2551 ของญี่ปุ่นหดตัวลง 12.7% ซึ่งเป็นสถิติที่หดตัวลงรุนแรงที่สุดในรอบ 35 ปี เพราะได้รับผลกระทบจากภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
ภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาของญี่ปุ่นกำลังกดดันให้รัฐบาลญี่ปุ่นพยายามหาทางออกในทุกๆด้าน เพื่อยับยั้งภาวะถดถอย ทั้งนี้ เศรษฐกิจญี่ปุ่นถูกกระทบอย่างหนักจากภาวะชะลอตัวลงของเศรษฐกิจ และผู้บริโภคที่ลดการจับจ่ายใช้สอย อันเนื่องมาจากตัวเลขว่างงานที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง
ดอยช์แบงค์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะหดตัว 6.6% ในปี 2552 เมื่อเทียบกับที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 3.9% โดยระบุว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะทรุดตัวลงรุนแรงที่สุด ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นอีกครั้งในช่วงครึ่งหลังของปี 2553 นอกจากนี้ คาดว่าเศรษฐกิจในประเทศอื่นๆของเอเชียจะชะลอตัวลงด้วยเช่นกัน โดยคาดว่าเศรษฐกิจอินโดนีเซียจะขยายตัวเพียง 5.7% ในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นสถิติที่ขยายตัวช้าที่สุดในรอบกว่า 2 ปี สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน