นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย(SCC)คาดว่า ในครึ่งปีหลังจะสามารถสรุปดีลที่บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาเข้าไปเทคโอเวอร์ได้เพื่อต่อยอดธุรกิจ ซึ่งขณะนี้มีการเจรจาอยู่ 2-3 ดีล โดยส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่มีปัญหาทางสภาพคล่องทางการเงิน ขณะที่บริษัทมองว่าการดำเนินการช่วงนี้มีต้นทุนถูก ดีกว่าไปเริ่มลงทุนใหม่
"ถือเป็นแผนการลงทุนของบริษัทภายใต้วิกฤติ ซึ่งสวนทางกับวิกฤติที่เกิดขึ้น"นายกานต์ กล่าว โดยระบุว่ากิจการที่เจรจาเป็นกิจการในกลุ่มเดียวกับที่บริษัทมีความถนัด ได้แก่ ปูนซิเมนต์ กระดาษ และปิโตรเคมี
นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญในแง่ของการลงทุนด้านวิจัยและพัฒนา(R&D) ซึ่งจะสอดคล้องกับการเพิ่มสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น ทำให้ในปี 52 บริษัทเพิ่มงบด้านวิจัยและพัฒนามากขึ้น ขณะเดียวกันจะมองในแง่การขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศมากขึ้นด้วย
"ตอนนี้สิ่งที่สำคัญ คือการบริหารสภาพคล่องภายใต้วิกฤติเศรษฐกิจ อันไหนที่ไม่จำเป็นหรือการลงทุนใหม่ๆ ก็รอไปก่อนก็ได้ ก็ทำเฉพาะโครงการที่ได้รับอนุมัติไปแล้ว แต่ภายใต้วิกฤติอย่างนี้การมองธุรกิจในต่างประเทศก็ถือเป็นโอกาสและจังหวะที่ดี เพราะต้นทุนมันลดลง"นายกานต์ กล่าว
สำหรับสิ่งที่สำคัญตอนนี้ คือการเรียกความเชื่อมั่นจากประชาชน โดยมองว่ามาตรการภาครัฐที่ออกมาเป็นมาตรการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นเท่านั้น จึงอยากให้ภาครัฐมีมาตรการในการกระตุ้นระยะยาวเพื่อช่วยภาคเอกชนออกมาด้วย