(เพิ่มเติม) DELTA เผยมีเงินสดในมือ 200 ล้านเหรียญฯพร้อมแสวงหาโอกาสลงทุนใหม่ปีนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 17, 2009 12:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอนุสรณ์ มุทราอิศ กรรมการบริหาร บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) (DELTA) กล่าวว่า บริษัทจะใช้โอกาสที่บริษัทมีเงินสดมากกว่า 200 ล้านเหรียญฯ ในการเข้าลงทุนภายใต้วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น เพราะถือเป็นโอกาสเนื่องจากการแข่งขันก็จะไม่รุนแรงมาก ซึ่งคาดว่าจะเห็นการลงทุนได้ในปีนี้ ส่วนรูปแบบในการลงทุนคงมีมีความหลากหลาย

สำหรับยอดขายในปีนี้ของบริษัทคงจะใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 3.2 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากวิกฤตที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อธุรกิจอิเล็กทรอนิคส์ให้ลดลงเล็กน้อย แม้ว่าในปีนี้บริษัทจะมีการเจาะตลาดใหม่ๆ เช่น แอฟริกา ตะวันออกกลาง รวมถึงการขยายการลงทุนต่อเนื่องในประเทศอินเดีย รวมถึงสินค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้นซึ่งจะทำให้ทดแทนธุรกิจที่ได้รับผลกระทบได้ แต่คงจะไปสร้างรายได้ใน 3-4 ปีข้างหน้า เท่าตัวหรือประมาณ 2,000 ล้านเหรียญฯ

ขณะเดียวกันการเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมาร์จินก็จะทำให้เราเติบโตได้โดยเฉพาะสถานการณ์ในปัจจุบันซึ่งในปีนี้เราก็จะเจาะสินค้าที่มีมาร์จินดี เช่น เครื่องมือแพทย์ ระบบการจัดเก็บข้อมูล ซึ่งมีมาร์จินสูงถึง 30-50% จากเฉลี่ยที่ธุรกิจปัจจุบันที่ 25%

"ปีนี้เป็นปีที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกคงไม่มีใครที่ไม่ได้รับผลกระทบ เพียงแต่จะมากหรือน้อยเท่านั้น การที่เราดึงให้ได้เท่ากับปีก่อนทั้งรายได้และกำไรก็น่าพอใจแล้วแต่ภายในวิกฤติก็มีโอกาสการลงทุนในช่วงนี้ถือเป็นแต้มที่ดีเพราะอย่างเรา การเจาะตลาดใหม่ๆ ก็จะช่วยชดเชยประเทศที่ไม่ดีอย่างยุโรปและอเมริกา ซึ่งถือว่าเป็นการรอกว่า 2 ประเทศจะฟื้นกลับมา" นายอนุสรณ์ กล่าว

การลงทุนในประเทศอินเดียบริษัทได้มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพราะที่ประเทศอินเดียมีอัตราการเติบโตและความต้องการทั้งซอฟต์แวร์และด้านไอทีที่มาก ซึ่งในปีก่อนบริษัทมียอดขายจากอินเดียแล้ว 200 ล้านเหรียญฯและจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องใน 2-3 ปี เป็น 800 ล้านเหรียญฯและไปที่ 1,000 ล้านเหรียญฯได้ในปี 2555 ซึ่งถือว่าเป็นแผนการลงทุนที่บริษัทได้วางไว้ใน 5 ปี (51-55)

ในส่วนของ gross profit margin ปีนี้จะพยายามรักษาให้ได้เท่าปีก่อนที่ 24%

สำหรับแผนในการซื้อหุ้นคืนนั้น บริษัทคงไม่มีนโยบายถึงแม้บริษัทได้มีการแก้ข้อกฎหมายเผื่อไว้แล้วเพื่อในอนาคตอาจจะนำบริษัทลูกเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นต่างประเทศ อีกทั้งตอนนี้สภาพคล่องต่ำไม่ควรไปยุ่ง ถ้าเข้าไปอาจจะทำให้สภาพคล่องไม่ดี อีกทั้งคนที่ถือหุ้นอยู่ส่วนใหญ่ถือระยะยาวเพื่อรอปันผล ส่วนราคาหุ้นที่ตกลงน่าจะเกิดจากปัจจัยภายนอกมากกว่าเกิดจากบริษัท

สำหรับการจ่ายปันผลงวดปี 51 ที่จ่ายในอัตรา 1.10 บาท/หุ้น น้อยลงกว่าปี 50 ที่จ่าย 1.60 บาท/หุ้นนั้น นายอนุสรณ์ กล่าวว่า เชื่อว่าผู้ถือหุ้นจะเข้าใจเพราะบริษัทต้องการที่จะถือเงินสดไว้ส่วนหนึ่งเพื่อการลงทุน สร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้นในอนาคต ถึงแมุ้ธุรกิจอิเล็คทรอนิคส์ จะได้รับผลกระทบ แต่บริษัทยืนยันว่าจะไม่มีการปลดพนักงานออกซึ่งที่ผ่านมาเป็นการลดพนักงานแบบเหมาช่วงเท่านั้น

"เรายังไม่ได้ผลกระทบจากสิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนประเทศจีน เราพยายามปรับตัวและค้นหาสินค้าที่ต้องแข่งขันในตลาดได้และก็ต้องมั่นใจด้วยว่าราคาจะต้องแข่งขันในตลาดได้ถึงแม้อาจจะเห็นสินค้าที่ราคาต่ำลงบ้างในบางชนิดแต่ก็ต้องทำ" นายอนุสรณ์ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ