ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ (17 ก.พ.) เนื่องจากแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกทรุดตัวลงอย่างหนัก อันเนื่องมาจากความกังวลที่ว่าภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยจะฉุดดีมานด์พลังงานลดลงด้วย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดร่วง 100.62 จุด แตะที่ 4,034.13 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 3,995.39-4,134.75 จุด
ฮิวจ์ ยาร์โรว์ นักวิเคราะห์จาก Rathbone Unit Trust Management กล่าวว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนถูกกดดันจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย หลังจากญี่ปุ่นเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ปี 2551 ของญี่ปุ่นหดตัวลง 12.7% ซึ่งเป็นสถิติที่หดตัวลงรุนแรงที่สุดในรอบ 35 ปี
ขณะที่สมาพันธ์อุตสาหกรรมอังกฤษ (CBI) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจอังกฤษอาจหดตัวลง 3.3% จากเดิมที่เคยคาดไว้ว่าจะหดตัวลงเพียง 1.7% และคาดว่าเมื่อถึงสิ้นปีนี้ เศรษฐกิจอังกฤษจะหดตัวลงเป็นไตรมาสที่ 6 ติดต่อกัน
นอกจากนี้ เศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ถดถอยรุนแรงอาจฉุดเศรษฐกิจออสเตรเลียให้เข้าสู่ภาวะถดถอยในปีนี้ เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่สุดของออสเตรเลีย
กระแสความวิตกกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอยได้ฉุดราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกทรุดตัวลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ ส่งผลให้นักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มพลังงานและเหมืองแร่ โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ร่วงลง 3% หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ดิ่งลง 4.5% หุ้นเอ็กซ์สตราต้าร่วงลง 7.1%
หุ้นธนาคาร HSBC ดิ่งลง 6.8% หลังจากนักวิเคราะห์ของ CLSA ระบุว่าธนาคาร HSBC อาจต้องระดมทุน 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ผ่านการขายหุ้นบุริมสิทธิ์และลดการจ่ายเงินปันผล