นายสมบัติ เอกวรรณพัฒนา ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)กล่าวว่า หากบมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ(NWR) มีการเซ็นสัญญารับงานเหมืองแม่เมาะได้จริงในวันนี้อย่างที่เป็นข่าว ก็จะส่งผลดีต่อปัจจัยพื้นฐานของ NWR โดยจะทำให้งานในมือ(backlog)มีมากขึ้น เพราะมูลค่างานส่วนนี้ทาง NWR ก็น่าจะได้ประมาณ 9,000 ล้านบาท
อีกทั้งอัตรากำไรขั้นต้นของ NWR ก็จะดีขึ้นมาก จากเมื่อ 9 เดือนของปี 2551 NWR มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 6.8% ซึ่งงานนี้จะช่วยในแง่ของความสามารถในการทำกำไรได้เป็นอย่างดี และหากเกิดขึ้นจริงทางดีบีเอสฯก็จะทำการปรับประมาณการไปในทางที่ดีขึ้น และปรับราคาพื้นฐานของ NWR ใหม่ด้วย
นอกจากนี้ NWR ยังมีลุ้นในโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ในสัญญาที่ 2 ที่ได้ทำร่วมกับ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD)ด้วย หากได้งานส่วนนี้ก็จะยิ่งเป็นการเสริมพื้นฐานของ NWR เข้าไปอีก ซึ่งก็ต้องจับตาดูต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร
วานนี้(17 ก.พ.)ราคาหุ้น NWR ปิดที่ 0.26 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 3.30 ล้านบาท
บมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ(NWR) จะลงนามสัญญาโครงการจ้างเหมาขุด-ขนดินและถ่านหิน(สัญญาที่ 6) เหมืองแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ในนามกลุ่มบริษัท NWR-SBCC JOINT VENTURE (กิจการร่วมค้าบริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ และ บริษัท สระบุรีถ่านหิน จำกัด) กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ในวันนี้
นสพ.ระบุว่า โครงการดังกล่าว มูลค่ารวม 1.6 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่าจะรับรู้รายได้ทันทีไตรมาส 3 และทยอยรับรู้อีกปีละ 1 พันล้านบาท นานถึง 9 ปี ตั้งเป้าปี 52 หางานใหม่อย่างน้อย 3,000 ล้านบาทย้ำรายได้ปีละ 4,000 ล้านบาท