(เพิ่มเติม1) RATCH เผยปี 52 เตรียมงบลงทุน 4.5 พันลบ.หาพันธมิตร-เน้นลงทุน SPP

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 18, 2009 13:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายนพพล มิลินทางกูร กรรมการผู้จัดการ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง(RATCH)เปิดเผยว่าในปี 52 บริษัทมีงบลงทุน 4.5 พันล้านบาท เพื่อใช้ในการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ โดยเน้นหาพันธมิตรร่วมทุนในโครงการใหม่ ขณะเดียวกันบริษัทสนใจขยายการลงทุนโครงการผลิตไฟ้าเอกชนรายเล็ก(SPP)มากขึ้น และโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนขนาดเล็กมาก(VSPP) ด้วย

"งบลงทุนปี 52 ที่ 4.5 พันล้านบาทสูงกว่าปีก่อนที่ใช้ 1.5 พันล้านบาท ส่วนใหญ่ใช้ในโครงการโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนหงสา โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ-น้ำงึม 3 และโครงการโรงไฟฟ้าเซเปียน-เซน้ำน้อย" นายนพพล กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทมีเงินทุนหมุนเวียนประมาณ 1 หมื่นล้านบาท จึงไม่จำเป็นจะต้องระดมเงินจากที่อื่น และไม่มีมีแผนที่จะออกหุ้นกู้ในปีนี้ แต่มีแผนที่จะรีไฟแนนหนี้เดิมที่มีอยู่ 2.2 หมื่นล้านบาท โดยสิ้นปีจะให้เหลือ 1.9 หมื่นล้านบาท

นอกจากนี้ ในปีนี้บริษัทยังคงแผนนำเงินสดที่มีในมือ และกำไรจากการดำเนินงาน 2.34 หมื่นล้านบาท ไปลงทุนในหุ้นกู้ภาคเอกชน และตราสารหนี้ความเสี่ยงต่ำ เพื่อหาผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากธนาคาร

สำหรับรายได้ปี 52 บริษัทคาดว่าอาจมีแนวโน้มลดลงจากปีก่อน เนื่องจากในปีนี้จะมีระยะเวลาปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้ามากกว่าปี 51 แต่ยังไม่สามารถประเมินตัวเลขได้ เนื่องจากบริษัทอาจปิดเครื่องหยุดผลิต จากช่วงที่ผ่านมาอากาศหนาว ทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าในประเทศปรับตัวลดลง โดยทั้งปี 52 กระทรวงพลังงานคาดความต้องการใช้ไฟฟ้าในประเทศลดลง 12% ประกอบกับบริษัทมีแผนจะต้องปิดซ่อมบำรุงเครื่องผลิตไฟฟ้าที่ราชบุรีพาวเวอร์ แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทมีสัญญาส่งมอบไฟกับกฟผ.ที่แน่นอนอยู่แล้ว ไม่น่าจะกระทบต่อรายได้มากนัก

ขณะที่ ในปี 52 คาดว่ากำไรจะปรับตัวลดลงจากปีก่อนประมาณ 5% จากการที่บริทจะต้องชำระภาษี หลังหมดสิทธิประโยชน์ทางภาษี BOI บางส่วน โดยคาดว่าจะชำระประมาณ 700 ล้านบาท

นายนพพล กล่าวต่อว่า บริษัทอยู่ระหว่างหาข้อสรุปเพื่อเจรจาในสัญญาสัมปทาน และราคาซื้อขายไฟฟ้า โครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา 3 โครงการ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนหงสา โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ-น้ำงึม 3 และโครงการโรงไฟฟ้าเซเปียน-เซน้ำน้อย ซึ่งตั้งอยู่ในสปป.ลาว ซึ่งคาดว่าจะสามารถลงนามสัญญาสำคัญโครงการดังกล่าวได้ภายในปี 52 หากแผนกำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP 2007) ได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้

นอกจากนั้น ปัจจุบันโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ-น้ำงึม 2 ซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จกว่า 71% (ตัวเลข ณ สิ้นปี 51) คาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าได้ทันตามกำหนดในปี 56

ส่วนการลงทุนที่เกาะกง นายนพพล กล่าวว่า ยังอยู่ในความสนใจ แต่ต้องใช้เวลานานในการศึกษา เนื่องจากติดปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังนั้นต้องใช้ความระมัดระวังในการเจรจาเพราะเป็นเรื่องอ่อนไหว

อีกทั้ง ยังศึกษาแผนการลงทุนธุรกิจเหมืองถ่านหินเพื่อเป็นพลังงานในการผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งอยู่ระหว่างศึกษาหลายรายในต่างประเทศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ