ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเรื่องเศรษฐกิจที่ถดถอยทั่วโลก และกังวลว่าการลาออกของนายโชอิชิ นาคากาว่า รมว.คลังญี่ปุ่นจะส่งผลให้การประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจล่าช้าออกไป
สำนักข่าวเกียวโดรายงาน ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดร่วงลง 111.07 จุด หรือ 1.45% แตะที่ระดับ 7,534.44 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 27 ต.ค.
โตชิคาสึ โฮริอุชิ นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์คอสโมกล่าวว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นโตเกียวซบเซาลงเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่ถดถอยทั่วโลก และหลังจากดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วง 297.81 จุด หรือ 3.79% แตะที่ 7,552.60 จุดเมื่อคืนนี้เนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจว่าแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ลงนามไปเมื่อวานนี้นั้น จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้
แม้นักลงทุนคลายความกังวลเมื่อทราบข่าวว่าบริษัทผลิตรถยนต์ของสหรัฐอย่างเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) และไครสเลอร์ แอลแอลซี ไม่ได้ยื่นขอพิทักษ์การล้มละลาย แต่แนวโน้มอุตสาหกรรมรถยนต์ในสหรัฐยังมืดมน โดยนักลงทุนติดตามดูข่าวที่ว่าจีเอ็มและไครสเลอร์ ที่เตรียมยื่นรายงานการปรับโครงสร้างองค์กรต่อกระทรวงการคลังสหรัฐ เพื่อให้ตรงตามข้อกำหนดการรับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ปี 2551 ของญี่ปุ่นหดตัวลง 12.7% ซึ่งเป็นสถิติที่หดตัวลงรุนแรงที่สุดในรอบ 35 ปี และข่าวที่ว่านายโชอิจิ นาคากาว่า ประกาศลาออกจากตำแหน่งรมว.คลังญี่ปุ่นหลังจากที่ถูกวิจารณ์อย่างหนักเรื่องอาการมึนเมาระหว่างการแถลงข่าวภายหลังการประชุม G-7 ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี ซึ่งข่าวดังกล่าวได้สั่นคลอนเสถียรภาพของรัฐบาลญี่ปุ่นอย่างมาก และอาจทำให้การประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจล่าช้าออกไปด้วย
ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มหลักทรัพย์ กลุ่มเวชภัณฑ์ และกลุ่มไฟแนนซ์ ร่วงลงอย่างหนัก