ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (18 ก.พ.) เนื่องจากแรงขายที่ส่งเข้าถ่วงหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันในตลาดโลกร่วงลงต่ำกว่าระดับ 35 ดอลลาร์/บาร์เรล และความวิตกกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอยในอังกฤษ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 27.30 จุด แตะที่ 4,006.83 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 3,938.12-4,056.48 จุด
สมาพันธ์อุตสาหกรรมอังกฤษ (CBI) เปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อของโรงงานอุตสาหกรรมในอังกฤษร่วงลงอย่างรุนแรงเกินคาดในเดือนนี้ในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 17 ปี ขณะที่รัฐบาลอังกฤษเปิดเผยว่า รายได้เฉลี่ยต่อสัปดาห์ของประชาชนในอังกฤษเพิ่มขึ้นเพียง 2.2% ในเดือนธ.ค.ปี 2551 ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่ต่ำสุดในรอบ 6 ปี
ข้อมูลดังกล่าวมีขึ้นหลังจาก CBI คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจอังกฤษอาจหดตัวลง 3.3% จากเดิมที่เคยคาดไว้ว่าจะหดตัวลงเพียง 1.7% และคาดว่าเมื่อถึงสิ้นปีนี้ เศรษฐกิจอังกฤษจะหดตัวลงเป็นไตรมาสที่ 6 ติดต่อกัน
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหลังจากราคาน้ำมันในตลาดโลกดิ่งลงต่ำกว่าระดับ 35 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นบีพีร่วงลง 3% หุ้นบีจี กรุ๊ป ดิ่งลง 1.4% หุ้นเคร์น เอ็นเนอร์จี ร่วงลง 2.0% และหุ้นทุลโลว์ ออยล์ร่วงลง 2.3%
ส่วนหุ้นกลุ่มเหมืองดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง โดยหุ้นริโอ ตินโต ร่วงลง 0.7% หุ้นคาซัคมิสดิ่งลง 1.8% และหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ร่วงลง 2.2%
ธนาคารกลางอังกฤษเปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนก.พ.ว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายเห็นพ้องต้องกันว่าควรขออนุมัติจากรัฐบาลสหรัฐให้ใช้มาตรการผ่อนปรนทางการเงิน และมีมติด้วยคะแนนเสียง 8-1 ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่สถิติต่ำสุดที่ 1%