พล.อ.กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ กรรมการบริหาร บมจ.ทุ่งคาฮาเบอร์(THL)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"กล่าวว่า แนวโน้มผลประกอบการปี 52 คาดว่าจะออกมาดีกว่าปี 51 อย่างน้อยก็ต้องเสมอเท่าเดิมหรือดีขึ้น เนื่องจากบางเดือนบริษัทอาจจะผลิตทองคำได้สูงกว่าเป้าหมายที่ต้องส่งมอบให้กับเจ้าหนี้ตามราคาที่สัญญาไว้ ทำให้สามารถขายส่วนที่เกินได้ตามราคาตลาด ขณะที่ราคาทองคำในตลาดโลกยังปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง
"ที่ผ่านมาเราส่งมอบได้ตามจำนวน 2,083 ออนซ์ทุกเดือน แต่ถ้าผลิตเกินก็จะขายเอง การผลิตตอนนี้ผลิตตามยอดที่จะส่งมอบได้อยู่ และนอกจากจะผลิตทองคำได้ตามเป้าแล้ว บางช่วงยังผลิตได้มากกว่าสัญญาขายทองที่ต้องส่งมอบให้ดอยซ์แบงก์(เจ้าหนี้)ด้วย" พล.อ.กิตติศักดิ์ กล่าว
อนึ่ง บทวิเคราะห์ของ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย)ระบุไว้ว่า THL จะได้ประโยชน์น้อยมากจากราคาทองที่ปรับขึ้นเพราะได้มีข้อกำหนดในการปรับโครงสร้างหนี้กับดอยช์แบงก์ที่ผ่านมาในเรื่องราคาขายทองคำที่ตายตัวไว้แล้ว คือ ม.ค.-ก.พ.52 เป็น 862 เหรียญต่อออนซ์ ต่ำกว่าราคาตลาดในปัจจุบัน และมี.ค.52- ก.พ.53 ลดลงเป็น 825 เหรียญต่อออนซ์ และ มี.ค.53-ก.พ.54 ลดลงไปอีก เป็น 815 เหรียญต่อออนซ์
พล.อ.กิตติศักดิ์ กล่าวว่า ราคาขายทองคำที่บริษัททำประกันราคาไว้กับเจ้าหนี้ก็ถือว่าก็มีทั้งส่วนดีและส่วนไม่ดี โดยส่วนดีคือหากราคาทองตกลงไปก็ยังสามารถขายได้ในราคาที่ประกันไว้ ซึ่งแม้ช่วงนี้ราคาทองปรับขึ้น แต่ก็ไม่มีอะไรมาการันตีได้ว่าจะขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะมีขึ้นก็มีลงได้แล้วแต่จังหวะ เพียงแต่ว่าราคาทองคงไม่ลงต่ำกว่าที่ควรจะเป็น
ปัจจุบัน THL กำลังทำ position plan เพื่อคาดการณ์ผลผลิตทองคำทั้งปี 52 แต่ขณะนี้ยังคงยอดส่งมอบทองคำให้กับดอยช์แบงก์ที่ 2,083 ออนซ์/เดือนอยู่ และมีผลิตส่วนเกินบ้างในบางช่วง
สำหรับผลประกอบการปี 51 จะพลิกกลับมาเป็นกำไรได้หรือไม่นั้น พล.อ.กิตติศักดิ์ กล่าวว่า จากช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 51 ก็กำไรมาทุกไตรมาส แต่ไตรมาสที่ 4 นี้ก็ต้องรอแจ้งผลประกอบการ
งวด 9 เดือน THL มีกำไรสุทธิแล้ว 64.447 ล้านบาท ขณะที่งวดปี 50 ขาดทุนสุทธิ 148 ล้านบาท
พล.อ.กิตติศักดิ์ เปิดเผยอีกว่า สำหรับธุรกิจเหมืองแร่ดีบุกนั้น ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการส่งทีมงานเข้าไปสำรวจพื้นที่ในประเทศพม่า เพื่อเตรียมพร้อมลงทุนในอนาคต ส่วนจะเริ่มดำเนินการได้เมื่อใดยังไม่กำหนด
"ตอนนี้เข้าไปสำรวจที่เหมืองในพม่าแล้ว ปีนี้จะได้เห็นหรือไม่ คงต้องรอนิดหนึ่งเพราะทั้งหมดเราไม่อยากให้เป็นข่าวไปก่อน รอได้ทำของจริงเลยดีกว่าเป็นข่าวไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรกับองค์กร รอให้ถึงเวลาทำของจริงถึงเวลาออกมาแล้วมีผลผลิตจริงขายได้จริง"พล.อ.กิตตศักดิ์ กล่าว