นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคารทหารไทย(TMB) เปิดเผยว่า ในปีนี้ธนาคารจะเน้นการหารายได้ค่าธรรมเนียมมากขึ้น โดยวางเป้ามีสัดสวนรายได้ค่าธรรมเนียมที่ 30% ของรายได้ทั้งหมด โดยเฉพาะบริการที่รองรับแนวโน้มที่ภาคธุรกิจขนาดใหญ่จะหันมาระดมทุนจากในประเทศมากขึ้นแทนการออกไปกู้เงินจากต่างประเทศ
ธนาคารจะเน้นที่กลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ที่จะออกหุ้นกู้ ซึ่งมีทั้งกลุ่ม บมจ. ปตท. (PTT) บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส(ADVANC) กลุ่มบริษัทข้ามชาติ และ กลุ่ม Consumer Finance นอกจากนี้ จะมีการแลกเปลี่ยนลูกค้ากับกลุ่ม ING โดยส่วนใหญ่เป็นบริษัทข้ามชาติ เพื่อขยายฐานลูกค้า ซึ่งขณะนี้เริ่มมีการเจรจากันบ้างแล้ว
"ปีนี้ เราคงหันไปเน้นลูกค้าที่จะออกหุ้นกู้ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจบริษัทข้ามชาติ ที่หลังบริษัทแม่ ประสบปัญหา จากภาวะเศรษฐกิจ ก็จะหันมาระดมเงินในประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะญี่ปุ่น และกลุ่มยุโรป ก็น่าสนใจ ซึ่งช่วงที่ผ่านมา กลุ่มทุนข้ามชาติ จะพึ่งพาเงินทุนจากบริษัทแม่ หรือกู้เงินจากต่างประเทศเป็นเงินกว่า 1.2 ล้านล้านบาท" นายปิติ กล่าว
นายปิติ กล่าวอีกว่า ในปี 52 มองว่ายังมีโอกาสที่ธนาคารจะขยายสินเชื่อได้ในกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ เช่น กลุ่มโรงกลั่นน้ำมัน แม้แนวโน้มราคาน้ำมันที่ปรับลดลง แต่ธุรกิจโรงกลั่นยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง ปัจจุบัน TMB มีพอร์ตสินเชื่อลูกค้ารายใหญ่ จำนวน 2,000 ราย เป็นวงเงินสินเชื่อรวม 140,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม จากวิกฤติเศรษฐกิจโลกส่งผลให้ธุรกิจขนาดใหญ่ที่เคยระดมทุนจากต่างประเทศ หรือพึ่งพาเงินทุนจากบริษัทแม่ หันมาออกหุ้นกู้ในประเทศมากขึ้น ทั้งเพื่อเสริมสภาพคล่องและรีไฟแนนซ์เงินกู้เดิม ซึ่งอาจจะกระทบต่อพอร์ตสินเชื่อของธนาคารได้ ดังนั้นในปี 52 อาจสามารถรักษาระดับฐานลูกค้าเดิมไว้ได้ เพื่อให้ยอดปล่อยสินเชื่อใกล้เคียงปีก่อน ถือว่าน่าพอใจแล้ว