บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) เปิดเผยว่า ในงบการเงิน ปี 51 บริษัทและบริษัทย่อยมีผลขาดทุนสุทธิตามงบกำไรขาดทุนรวม 18,261.87 ล้านบาท เปรียบเทียบกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิรวม 13,683.31 ล้านบาท ลดลงจำนวน 31,945.18 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 233
แม้ว่าบริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้จากการขาย จำนวนเงิน 244,693.87 ล้านบาทเปรียบเทียบกับปีก่อน จำนวนเงิน 227,518.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17,175.81 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 8 แต่มีต้นทุนขายเพิ่มขึ้น 45,752.49 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 22 ทำให้มีขาดทุนขั้นต้นเป็นจำนวนเงิน 13,071.98 ล้านบาท จากปีก่อนมีกำไรขั้นต้นเป็นจำนวนเงิน 15,504.70 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากราคาน้ำมันดิบที่ผันผวนสูงและมีการปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วในไตรมาส 4 ของปีนี้ โดยราคาน้ำมันดิบดูไบเมื่อต้นปี 2551 อยู่ที่ 89.22 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จากนั้นตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปีราคาน้ำมันดิบได้ขยับตัวอยู่ในระดับราคาเกิน 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และอยู่ในระดับสูงสุดในเดือนกรกฎาคม ด้วยราคา 140.77 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
แต่ในปลายไตรมาส 3 เป็นต้นมา ราคาได้ปรับลดลงมาอยู่ในระดับต่ำกว่า 100 เหรียญสหรัฐบาร์เรล และปรับลดต่ำลงอย่างรวดเร็วจนถึงระดับต่ำสุดเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2551 ที่ 36.40 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล รวมทั้งราคาสินค้าสำเร็จรูปได้ปรับตัวลดลงตามเช่นเดียวกัน ทำให้บริษัทฯ มีผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันและสินค้าคงเหลือประมาณ 15,469 ล้านบาท
และเนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำที่เกิดขึ้นทั่วโลกส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลงทำให้ราคาตลาดของน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปปรับลดลงอย่างรุนแรงตั้งแต่ไตรมาส 3 เป็นต้นมา เพื่อลดผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว บริษัทฯ จึงลดปริมาณการกลั่นลงในช่วงครึ่งปีหลัง 2551 ลงเหลือระดับการกลั่นน้ำมันเฉลี่ยที่ 159,670 บาร์เรลต่อวัน ทำให้ในปี 2551 บริษัทฯ มีระดับการกลั่นน้ำมันเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 170,035 บาร์เรลต่อวัน คิดเป็น ลดลงร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับระดับการกลั่นเฉลี่ย 189,454 บาร์เรลต่อวันในปีก่อน