ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กวิตกเศรษฐกิจถดถอย ฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง 89.68 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 20, 2009 06:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (19 ก.พ.) เนื่องจากความวิตกังวลเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นในภาคการธนาคารของสหรัฐและภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจภายในประเทศ ทั้งนี้ นักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นตั้งแต่ช่วงเช้า แม้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ลงนามแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจให้มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมายและเปิดแผนฟื้นฟูภาคอสังหาริมทรัพย์ก็ตาม

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วง 89.68 จุด หรือ 1.19% แตะที่ 7,465.95 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 9.48 จุด หรือ 1.20% แตะที่ 778.94 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลบ 25.15 จุด หรือ 1.71% แตะที่ 1,442.82 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.49 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 2,215 ต่อ 856 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.04 พันล้านหุ้น

ควินซี ครอสบี นักวิเคราะห์จากเดอะฮาร์ทฟอร์ดกล่าวว่า นักลงทุนเทขายอย่างต่อเนื่องหลังจากเฟดคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวประมาณ 0.5-1.3% ในปีนี้ มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะหดตัวเพียง 0.2-1.1% และคาดว่าอัตราว่างงานในสหรัฐจะพุ่งขึ้นสู่ระดับ 8.5-8.8% สูงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 7.1-7.6%

รายงานคาดการณ์ของเฟดมีขึ้นหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการสร้างบ้านในเดือนม.ค.ร่วงลง 16.8% เหลือเพียง 466,000 ยูนิตซึ่งเป็น ระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี และเฟดเปิดเผยตัวเลขการผลิตในภาคอุตสาหกรรมร่วงเกินคาด 1.8% ในเดือนม.ค.เพราะได้รับผลกระทบจากผลผลิตรถยนต์ที่ร่วงลงอย่างรุนแรง

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงซบเซาแม้ประธานาธิบดีโอบามาลงนามแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงิน 7.87 แสนล้านดอลลาร์ และเปิดเผยแผนฟื้นฟูภาคอสังหาริมทรัพย์วงเงิน 2.75 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือเจ้าของบ้าน 9 ล้านครัวเรือนที่ต้องผ่อนชำระเงินกู้จำนองบ้าน รวมถึงการกำหนดให้แฟนนี เม และเฟรดดี้ แมคให้บริการรีไฟแนนซ์เงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำภายใต้วงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์

นักลงทุนไม่มั่นใจในมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงิน 7.87 แสนล้านดอลลาร์ หลังจาก อลัน กรีนสแปน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า แผนฟื้นฟูฉบับดังกล่าวยังไม่มากพอที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวได้ และติงว่ารัฐบาลสหรัฐยังพยายามไม่มากพอในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบการเงิน

หุ้นฮิวเลตต์-แพคการ์ด ร่วงลง 7.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายไตรมาส 4 ร่วงลงรุนแรงเกินคาดและได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการไตรมาสแรกปีนี้ ขณะที่หุ้นซิตี้กรุ๊ปดิ่งลง 13.8% หุ้นแบงค์ ออฟ อเมริกา ร่วงลง 14%

ส่วนหุ้นซีวีเอส แคร์มาร์ค ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ พุ่งขึ้น 6.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2551 พุ่งขึ้นเกินคาด 17%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ