นายธนฑิต เจริญจันทร์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายการเงินและการบัญชี บมจ.ไทยคม(THCOM)มั่นใจว่า ในปี 52 บริษัทจะพลิกสถานการณ์กลับมามีกำไรได้แน่นอน หลังจากปี 51 ขาดทุน 713 ล้านบาท ทั้งนี้ มาจากการที่ iPSTAR จะเข้าสู่จุดคุ้นทุนตั้งแต่เริ่มดำเนินการมา โดยปีนี้ตั้งเป้าว่าจะได้ตลาดใหม่ 4 ประเทศ คือ ไต้หวัน ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และอินเดีย ซึ่งหวังว่าจะจะได้เห็นรายได้เข้ามาในช่วงครึ่งปีแรกปีนี้
"ที่อินเดีย ซึ่งเลื่อนจากปีที่แล้ว ขณะนี้รอเพียงการเซ็นสัญญาสุดท้าย และหากเซ็นสัญญาแล้วคาดว่าจะสามารถเริ่มได้ทันทีภายใน 2 เดือน"นายธนฑิต กล่าว
และหากปีนี้ขยายดาวเทียมไทยคมได้ตามเป้าหมาย คาดว่ารายได้จาก iPSTAR จะเติบโตถึง 30% เพราะตลาดเดิมอย่างออสเตรเลีย และไทย ยังขยายตัวอีกมาก ส่งผลให้รายได้รวมเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก
สำหรับปี 52 คาดว่าจะมียอดการใช้พื้นที่ของ iPSTAR เพิ่มเป็น 2.5 แสนUT จากปี 51 ที่อยู่ที่ 1.6 แสนUT หรือคิดเป็น Capacity เพิ่มเป็น 15% จากสิ้นปี 51 ที่ 10%
"การใช้ Capacity ที่ 15% เป็นเป้าหมายที่บริษัทต้องการทำให้ได้เนื่องจากเป็นจุดที่เข้าสู่จุดคุ้มทุนและหวังว่าปีนี้บริษัทจะกลับมากำไรหาก iPSTAR ไม่ขาดทุนอีก" นายธนฑิต กล่าว
สำหรับแผนการตลาดปีนี้เน้นการเติบโต ในตลาดเดิม อาทิ จีน ออสเตรเลีย ซึ่งขณะนี้จีนอยู่ระหว่างการปรับระบบโทรคมนาคมภายในประเทศบริษัทจึงอยู่ระหว่างการเจราเพื่อหาคู้ค้ารายใหม่ คาดว่าจะมีคู่ค้าใหม่ 3 รายในการทำตลาดรายย่อยและองค์กรในจีนที่มีอัตราการเติบโตสูง
ส่วนออสเตรเลีย ถือเป็นตลาดหลักของไทยคม สร้างรายได้มากกว่าตลาดในประเทศ มีคู่ค้าที่เป็นรายใหญ่ของออสเตรเลีย และเนื่องจากเป็นประเทศที่เปิดเสรีเชื่อว่ามีโอกาสเติบโตมากในตลาดองค์กรขนาดใหญ่
สำหรับหนี้สินที่มีอยู่กว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากที่อัตราดอกเบี้ยมีการปรับลดลง บริษัทจะมีการขอรีไฟแนนซ์อัตราดอกเบี้ยจากปัจจุบันที่มีเงินกู้ที่ยังไม่ได้ fix rate ประมาณ 50% ซึ่งปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยที่บริษัทแบกรับประมาณ 5% หากมีการรีไฟแนนซ์และทำ fix rate น่าจะลดต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายในปี 52 ของบริษัทลงได้
ในส่วนของการลงทุนปีนี้จะลงทุนเท่าที่จะเป็นและจะต้องได้ผลตอบแทนที่ชัดเจนจึงจะมีการลงทุน แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทจำเป็นจะต้องศึกษาการลงทุนเพื่อรองรับดาวเทียมไทยคม 2 ที่กำลังจะหมดอายุในปี 53 โดยยังคงแนวทางการสร้างดาวเทียมใหม่ หรือการเช่าดาวเทียมดวงอื่นที่อยู่ในวงโคจรอยู่แล้ว แต่ต้องศึกษาดาวเทียมที่คุณสมบัติและวงโคจรใกล้เคียงกับไทยคม 2 เนื่องจากในช่วงเดือนมิ.ย. 52 ดาวเทียมไทยคม 1 ก็จะหมดอายุ ซึ่งยังสามารถถ่ายโอนลูกค้าไปยังดาวเทียมไทยคม 5 ได้ และยังสามารถรองรับลูกค้าได้เพียงพอ แต่ดาวเทียมไทยคม 2 เป็นดาวเทียมรุ่นเก่า ไม่สามารถถ่ายโอนไปยังดาวเทียมไทยคม 5 ได้ แต่การตัดสินใจลงทุนก็ต้องระมัดระวังเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจชะลอตัว
นายธนฑิต กล่าวว่า แม้ว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่เชื่อว่าธุรกิจของไทยคมจะไม่ได้รับผลกระทบเนื่องจากเป็นการเช่าช่องสัญญาณเป็นเรื่องจำเป็น และที่ผ่านมาก็ไม่มียอดยกเลิกการเป็นลูกค้าของดาวเทียมเข้ามา