นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์(ประเทศไทย)หรือ TSD กล่าวว่า ผู้ถือหุ้น บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย(SCC)ที่เก็บใบหุ้นไว้กับตัวทยอยนำใบหุ้นมาให้ TSD ตรวจสอบเป็นจำนวนมาก หลังจากมีข่าวการดำเนินคดีกับผู้ทุจริตปลอมแปลงใบหุ้น ซึ่งคาดว่าจะสามารถสรุปจำนวนที่นำมาให้ TSD ตรวจสอบได้ในช่วงเที่ยงวันนี้
อย่างไรก็ตาม กรณีการปลอมใบหุ้นของ SCC จะแตกต่างจากกรณีการปลอมใบหุ้นของ บมจ. เอส.อี.ซี. ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (SECC) เนื่องจากความเสียหายของใบหุ้นปลอมของ SCC เกิดขึ้นเฉพาะผู้ถือหุ้นรายเดียวไม่ได้กระทบต่อตัวบริษัท เพียงแต่เป็นบริษัทใหญ่เมื่อผิดปกติก็จะเห็นรายการมูลค่าที่สูง และเป็นที่สนใจของตลาด
"เชื่อว่ากรณีปูนซีเมนต์ฯ น่าจะคืบหน้าและจบได้เร็ว เพราะผู้บริหารให้ความสำคัญ และอีกอย่างเรื่องนี้ที่แดงขึ้นก็ตอนที่จะโอนเปลี่ยนมือทำให้รู้ว่าถือใบปลอม ซึ่งจริง ๆ แล้วกรณีนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2547 ในส่วนของเราได้มีการแจ้งความกับตำรวจในฐานะผู้เสียหายแล้วตั้งแต่ต้นเดือน ก.พ."นางสาวโสภาวดีก ล่าว
นางสาวโสภาวดี กล่าวต่อว่า หากนักลงทุนรายใดไม่มีความมั่นใจว่าจะถือใบหุ้นปลอมหรือไม่ก็สามารถนำมาให้ทาง TSD ตรวจสอบได้ ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นอาจจะทำให้นักลงทุนตระหนักและมาใช้ระบบฝากกับ TSD มากขึ้น โดยปัจจุบันผู้ถือหุ้นกว่า 80% ก็ได้เข้าสู่ระบบโครงการระบบไร้ใบหุ้นเต็มรูปแบบ(Scripless)แล้ว
ทั้งนี้ เชื่อว่านอกจากกรณี SCC แล้ว ยังมีอีกหลายบริษัท เนื่องจากยังมีผู้ถือหุ้นจำนวนมากที่ยังคงถือในลักษณะใบหุ้นแทนการเข้าสู่ระบบ Scripless แต่ทาง TSD เห็นว่แนวทางในการเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ถือหุ้นให้หันมาใช้ระบบ Scripless นั้น น่าจะเป็นความสมัครใจมากกว่าการมีมาตรการบังคับ แต่หากออกเป็นข้อบังคับอย่างประเทศญี่ปุ่น มองว่าบ้านเรากว่าจะยอมรับคงต้องใช้เวลาประมาณ 3 ปีในการปรับเปลี่ยน
"ที่ผ่านมาได้มีการคุยกับสำนักงานก.ล.ต. และอยากให้เป็นแบบสมัครใจเหมือนกัน" นางสาวโสภาวดี กล่าว