(เพิ่มเติม) ฟิทช์คงอันดับความน่าเชื่อถือภายในประเทศระยะยาว BAFS ที่ 'A-(tha)'

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday February 23, 2009 15:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือภายในประเทศระยะยาวของบริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ (BAFS) ไว้ที่ 'A-(tha)' และคงอันดับความน่าเชื่อถือภายในประเทศระยะสั้นไว้ที่ 'F2(tha)' แนวโน้มมีเสถียรภาพ

อันดับเครดิตของ BAFS สะท้อนถึงสถานะความเป็นผู้นำในการให้บริการเติมน้ำมันอากาศยาน โดย BAFS เป็นผู้ให้บริการคลังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน (Depot Service) และเครือข่ายระบบท่อจ่ายน้ำมันอากาศยาน (Hydrant Pipeline Network) แต่เพียงรายเดียวและเป็นผู้ให้บริการหลักในส่วนของบริการเติมน้ำมันอากาศยาน (Into-Plane Service) ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยมีส่วนแบ่งการตลาดในการเติมน้ำมันอากาศยานที่ร้อยละ 90 นอกจากนี้ BAFS ยังเป็นผู้ให้บริการเติมน้ำมันอากาศยาน ณ ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพหรือสนามบินดอนเมืองเพียงรายเดียว ซึ่งเป็นสนามบินที่ให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศและเที่ยวบินประเภทเช่าเหมาลำเป็นหลัก อันดับเครดิตได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการที่ผู้ถือหุ้นหลักของ BAFS เป็นผู้ใช้บริการหลักในการเติมน้ำมันอากาศยาน โครงสร้างของค่าบริการที่ BAFS รับผิดชอบแต่ในส่วนของการให้บริการเท่านั้นซึ่งทำให้ BAFS ไม่มีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาน้ำมัน รวมถึงทีมบริหารระดับสูงของบริษัทที่มีประสบการณ์ นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังได้พิจารณาถึงความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดของ BAFS ที่ยังคงแข็งแกร่งและมั่นคงในปี 2551 ทั้งที่ภาวะแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจอ่อนตัวลง ซึ่งรวมถึงมีการปิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นเวลา 10 วัน ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2551

ผลประกอบการของ BAFS ดีขึ้นอย่างมากหลังจากการเปิดดำเนินงานของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในช่วงปลายปี 2549 ในขณะเดียวกัน อัตราส่วนหนี้สินซึ่งวัดได้จากอัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าเช่า (Net Adjusted Debt/EBITDAR) ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องมาอยู่ที่ระดับ 2.6 เท่า ณ สิ้นปี 2550 จาก 4.4 เท่า ณ สิ้นปี 2549 อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการของ BAFS ในปี 2551 ได้อ่อนตัวลงจากปี 2550 ด้วยปริมาณการใช้บริการเติมน้ำมันอากาศยานที่ลดลงร้อยละ 6 และกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าเช่า (EBITDAR) ลดลงประมาณร้อยละ 10 เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกได้ส่งผลกระทบต่อการเดินทางทางอากาศและธุรกิจสายการบิน รวมถึงผลกระทบจากการปิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นเวลา 10 วัน ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม 2551 อันเนื่องมาจากความตึงเครียดของการเมืองภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม กระแสเงินสดจากการดำเนินงานของ BAFS ยังคงแข็งแกร่งโดยอยู่ในระดับ 851 ล้านบาทในปี 2551 ในขณะที่อัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าเช่า ณ สิ้นปี 2551 เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 2.8 เท่า อันเป็นผลส่วนหนึ่งจากค่าใช้จ่ายลงทุนของ BAFS ที่อยู่ในระดับที่ไม่สูงมากนัก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ