นายอนุพนธ์ ศรีอาจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.บีฟิท กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปัจจัยต่างประเทศยังกดดันหุ้นไทยยังมีแนวโน้มซบเซาต่อเนื่องปัจจัยลบจากภายนอกเรื่องภาวะเศรษฐกิจเรื่องระบบการเงินของสหรัฐนักลงทุนยังขาดความเชื่อมั่นอยู่ในช่วงนี้ หุ้นเอเชียก็น่าจะมีการปรับตัวลงตามด้วย
ขณะที่ปัจจัยในประเทศเมื่อวานตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/51 ออกมาติดลบมากกว่าคาดทำให้ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานสู้เพื่อนบ้านไม่ได้ ทำดีที่สุดได้แค่ sideway ขณะที่ต่างประเทศปรับขึ้นเมื่อวาน วันนี้น่าจะปรับลงเพราะในแง่ปัจจัยไม่ได้มีอะไรด้านบวก เงินบาทก็อ่อนค่าตามภูมิภาคเพราะดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
ส่วนเรื่องผลประกอบการตลาดรับรู้ไปค่อนข้างมากแล้วคงไม่มีผลอะไรและตัวใหญ่ๆก็ออกมาเยอะแล้ว ส่วนบางบริษัทที่ปลอบใจได้เงินปันผลก็เล็กน้อยตัวเงินไม่มาก ฉะนั้นเรื่องผลตรงนี้คงไม่น่าจะมีผลต่อตลาดเท่าไร
"ปัจจัยลบในช่วงนี้เป็นปัจจัยจากต่างประเทศเป็นหลัก ภายในเองก็ไม่ได้มีหนุน ส่วนม็อบเสื้อแดง เฉยๆ เพราะเรื่องการชุมนุมมีมาติดประเทศไทยอยู่ จึงไม่ได้กังวลตรงนี้ ถ้าไม่มีเหตุการณ์อะไร และที่ผ่านมากลุ่มเสื้อแดงค่อนข้างเรียบร้อย" นายอนุพนธ์ กล่าว
กรอบการเคลื่อนไหว แนวรับ 430 จุด แนวต้าน 440 จุด กรอบไม่กว้างมากนักในช่วงนี้
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(23 ก.พ.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 7,114.78 จุด ลดลง 250.89 จุด(-3.41%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 743.33 จุด ลดลง 26.72 จุด(-3.47%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 1,387.72 จุด ลดลง 53.51 จุด (-3.71%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 359.28 ล้านบาทเมื่อวานนี้
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน มี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้ที่ 38.44 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.59 ดอลลาร์
- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเกือบ 4% เมื่อคืนนี้ (23 ก.พ.) เพราะได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 12 ปี โดยนักลงทุนกระหน่ำขายสัญญาน้ำมันดิบอย่างต่อเนื่อง แม้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ขู่ว่าจะลดกำลังการผลิตลงอีกในการประชุมเดือนหน้าก็ตาม
- สศช.เผยจีดีพีไตรมาส 4 หดตัว 4.3% ส่งผลจีดีพีปี 2551 โตได้ 2.6% ลดลงจากปีก่อนหน้าที่ขยายตัว 4.9% คาดปีนี้ เศรษฐกิจอาจหดตัวต่อเนื่อง โดยดิ่งต่ำสุดในไตรมาส 3 ยังหวังรายจ่ายงบประมาณเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้เร็ว ช่วยกระตุ้นจีดีพีครึ่งปีหลัง ทำให้จีดีพีทั้งปีโต 1-0% 'ธาริษา' รับเศรษฐกิจแย่เกินคาดแบงก์ชาติเตรียมปรับเป้าใหม่ 22 เม.ย.
- ที่ประชุมวุฒิสภา ให้ความเห็นชอบร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย เพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 52 วงเงิน 1.167 แสนลบ.แล้ว
- 'โสภณ' รับดัน 'พิชัย' ประธานคณะที่ปรึกษาทางการเงิน แก้ปัญหาภายใน 90 วัน ทั้งเจรจายืดหนี้-กู้เงินชำระคืนหนี้ที่ครบกำหนด เสนอบอร์ดอนุมัติ 27 ก.พ.นี้ ชี้ไม่ต้องการให้งานสะดุด 'ณรงค์ศักดิ์' เสนอบอร์ดกู้ 'กรุงไทย-ออมสิน' 1.5 หมื่นล้าน ล้างหนี้ระยะสั้น 'ซีเอฟโอบินไทย' เผยอยู่ระหว่างประเมินยอดเงินกู้ เพื่อรีไฟแนนซ์เงินกู้ระยะสั้น มั่นใจทำได้ตามแผน ชี้ผล
ประกอบการเริ่มดีขึ้นหลังเดือนม.ค.กำไรโผล่ จับมือหน่วยงานรัฐและเอกชนบูมธุรกิจท่องเที่ยว เจาะ 4 ตลาดเอเชีย
- 'พาณิชย์' ไม่หวั่นเศรษฐกิจทรุด หลายประเทศเล็งงัดมาตรการกีดกันทางการค้าปกป้องตลาด ชี้ต้องยึดกติกาตามกรอบดับเบิลยูทีโอ รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนเตรียมถกปัญหาการใช้เอ็นบีที ระบุ ส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจยิ่งเลวร้ายลงเผยปีหน้าอาเซียนทลายกำแพงกีดกันการค้า 'อินเดีย' ยังไม่ส่งรายชื่อผู้ลงนามเอฟทีเออาเซียน-อินเดีย คาดเซ็นข้อตกลงไม่ได้
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเผยยอดสินเชื่อแบงก์เดือนแรกของปี 52 ทั้งระบบลดลงกว่า 9 หมื่นล้าน แบงก์ขนาดใหญ่-กลางขยับลงถ้วนหน้า โดยกลุ่มแบงก์ใหญ่ลดเกือบ 6 หมื่นล้าน แบงก์กลาง 2.5 หมื่นล้าน ขณะที่แบงก์เล็ก ลด 8 พันล้าน มีทิสโก้-สแตนชาร์ดรอดขยับเพิ่มกว่า 2 พันล้าน ด้านเงินฝากมีลดลง 1.4 หมื่นล. หรือลดลง 0.22%
- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การว่างงานช่วง 2Q09 เมื่อรวมกับการเลิกจ้างไปแล้วในปี’08 จำนวน 6.01 หมื่นคน อาจจะทำให้การว่างงานรวม มากถึง 1.2 ล้านคน ตามการประเมินว่า 2Q09 การเติบโตเศรษฐกิจจะติดลบ 2.5-3.5% ซึ่งการที่จีดีพีติดลบทุก 1% จะมีผลให้คนว่างงานประมาณ 1.12 แสนคน