นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้จัดการ บมจ.โออิชิ กรุ๊ป (OISHI)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"โดยคาดว่ายอดขายของบริษัทจะเพิ่มขึ้นอีกปีละ 1.5-2.0 พันล้านบาท หลังจากการเพิ่มกำลังการผลิตและบรรจุเครื่องดื่มใส่ขวด PET แบบ Cold Aseptic Filling แล้วเสร็จ ซึ่งจะทำให้มีปริมาณสินค้าเพิ่มขึ้นประมาณ 12 ล้านขวด/ปี จากปัจจุบันที่โรงงานเดิมผลิตได้ประมาณ 35 ล้านขวด/ปี
วานนี้ คณะกรรมการบริษัท OISHI อนุมัติโครงการลงทุน 1,430 ล้านบาท จะเริ่มผลิตเพื่อการพาณิชย์ได้ในไตรมาสที่ 3/53 โดยจะขออนุมัติส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ซึ่งคาดว่าทำให้บริษัทสามารถผลิตเครื่องดื่มได้หลากหลายขึ้น เช่น เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของนม และลดต้นทุนบรรจุภัณฑ์ได้เพราะใช้ขวด PET ที่ขนาดเบากว่า ลดค่าใช้จ่ายในการผลิตได้เพราะใช้พลังงานในการผลิตน้อยกว่า ลดการสูญเสียจากการผลิตจากกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพ
นายตัน กล่าวว่า เครื่องจักรใหม่ดังกล่าวสามารถปรับใช้ผลิตเครื่องดื่มได้ทุกประเภทตามความเหมาะสม อีกทั้งยังสามารถผลิตสินค้าที่มีส่วนผสมของนมได้ด้วยที่แต่เดิมเราไม่มี แต่ในเบื้องต้นเครื่องจักรใหม่จะเน้นใช้สำหรับผลิตชาเขียวเป็นหลัก และเน้นรองรับการขายในประเทศ ซึ่งเชื่อว่ากำลังซื้อมีรองรับแน่นอน
"โรงงานใหม่อีก 12 ล้านบาท/เดือน หรือ 144 ล้านขวด/ปี ถ้าผลิตเต็มที่จะสามารถสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นอีก 1,500-2,000 ล้านบาท/ปี เรามั่นใจเรื่องการเติบโตถึงได้ลงทุนครั้งนี้ เราเชื่อว่าในอีก 2 ปี ยอดขายเราเติบโตถึงจุดที่เราต้องเพิ่มกำลังผลิตพอดี ถ้ารอให้ถึงเวลาแล้วค่อยตัดสินใจอาจจะต้องรอออกไปอีก 2 ปี"นายตัน กล่าว
นายตัน กล่าวถึงผู้ถือหุ้นใหญ่คือกลุ่มเบียร์ช้างว่า ทางผู้ถือหุ้นใหญ่มอบอำนาจการตัดสินใจและอำนาจการบริหารให้อย่างเต็มที่ ซึ่งผู้ถือหุ้นใหญ่รวมทั้งผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ ก็เข้าร่วมในการประชุมบอร์ดด้วย
"ทางคุณเจริญให้สิทธิเราบริหาร ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่เคยมาก้าวก่ายในส่วนนี้เลย ส่วนสัดส่วนหุ้นเค้าก็ยังถือเท่าเดิม"นายตัน กล่าว