(เพิ่มเติม) PTTCH คาดปี 52 รายได้โตเป็น 8.8 หมื่นลบ.จากราคาฟื้น-กำลังผลิตเพิ่ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 24, 2009 13:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวีระศักดิ์ โฆสิตไพศาล บมจ.ปตท.เคมิคอล(PTTCH)คาดว่าปี 52 บริษัทจะมีรายได้ที่ 8.8 หมื่นล้านบาทเพิ่มจากปีก่อน 8.2 หมื่นล่านบาท เนื่องจากกำลังการผลิตของบริษัทเพิ่มขึ้นในส่วนของโอเลฟินส์ที่จะเข้ามาปลายปีนี้ตามแผน ประกอบกับราคาขายผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีเริ่มปรับตัวดีขึ้นจากปลายปีก่อน

ทั้งนี้ คาดว่าปี 52 ราคาขายเอทิลีนจะอยู่ที่ 600-700 เหรียญสหรัฐ/ตัน, ราคา HDPE ที่ 900 เหรียญสหรัฐ/ตัน ขณะที่ ประมาณการราคาแนฟทา ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตไว้ที่ 400 เหรียญสหรัฐ/ตัน ทำให้บริษัทคาดว่าจะมีส่วนต่างผลิตภัณฑ์(สเปรด) ของบริษัทอยู่ประมาณ 400-500 เหรียญ/ตัน

"ยังถือว่าเป็นราคาที่น่าพอใจ เมื่อเทียบกับช่วงขาลงของอุตสาหกรรมเดียวกันและอุตสาหกรรมอื่น ปีนี้บริษัทน่าจะเติบโตดี และไม่มีผลขาดทุนเหมือนช่วงไตรมาส 4/51 เพราะทั้งราคาขายและราคาผลิตภัณฑ์ได้ผ่านจุด bottom ไปแล้ว และคิดว่าจะไม่เกิดอาการหัวทิ่มของราคาขายอีก"นายวีระศักดิ์ กล่าว

สำหรับไตรมาส 1/52 น่าจะมีทิศทางรายได้ดีขึ้นมื่อเทียบกับไตรมาส 4/51 แต่หากเทียบกับไตรมาส 1/51 คงจะน้อยกว่า เพราะต้นปีก่อนถือเป็นช่วงพีคของราคาขายผลิตภัณฑ์

อนึ่ง ในไตรมาส 4/51 บริษัทขาดทุน 4,182 ล้านบาท

นายวีระศักดิ์ คาดว่า ในปีนี้จะมีกำลังการผลิตจากโรงงานปิโตรเคมีแถบตะวันออกกลางออกมาสู่ตลาดโลกเพิ่มอีกประมาณ 2-3 ล้านตัน แต่บริษัทเชื่อว่าจะไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากกำลังซื้อส่วนใหญ่อยู่ในแถบเอเชีย ซึ่งบริษัทมีความได้เปรียบมากกว่าแหล่งผลิตในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะในด้านการขนส่ง

ขณะที่บริษัทมีแผนปิดซ่อมบำรุงโรงงานบางส่วน ได้แก่ โรงงานโอเลฟินส์ และโรงงาน HDPE ในไตรมาส 3/52

ทั้งนี้ ตามแผนการผลิตในไตรมาส 4/52 บริษัทจะผลิตเชิงพาณิชย์โครงการขยายกำลังการผลิตโรงโอเลฟินส์ I4-2 ซึ่งจะเพิ่มกำลังการผลิตเอทิลีน 1 แสนตัน/ปี และโพรพิลีน 50,000 ตัน/ปี นอกจากนี้ โรงงานเม็ดพลาสติก LLDPE และ LDPE ภายใต้ บจ พีทีที โพลีเอทิลีน มีกำลังการผลิต LLDPE 4 แสนตัน/ปี และ LDPE 3 แสนตัน/ปี (ทั้งสองชนิดเป็นสินค้าใหม่ของบริษัท) , ขยายกำลังการผลิต HDPE ของบริษัท บางกอกโพลีเอทิลีน จำกัด(มหาชน)หรือ BPE อีก 1.5 แสนตัน/ปี ที่จะผลิตได้ในไตรมาส 4/52

*ทบทวนแผนลงทุน 5 ปี ให้สอดคล้องภาวะศก.

นายวีระศักดิ์ กล่าวว่ งบลงทุนในปีนี้บริษัทคาดว่าจะใช้งบจำนวน 2.5 หมื่นล้านบาท ตามแผนการลงทุนเดิมในกรอบวงเงินลงทุน 5 ปี (ปี 52-56)จำนวนเงินรวม 3.97 หมื่นล้านบาท แต่บริษัทอยู่ระหว่างทบทวนแผนการลงทุน เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจ และช่วงขาลงของอุตสาหกรรมปิโตรเคมี

ทั้งนี้ บริษัทมีแงินลงุทนและสภาพคล่องพียงพอหลังการออกหุ้นกู้เมื่อปลายปีที่แล้วและแหล่งเงินจากผลดำเนินงาน อย่างไรก็ตาม วงเงินกู้เดิมจำนวน 3.2 หมื่นล้านบาท ขณะนี้เหลืออยู่ 4.6 พันล้านบาท บริษัทจะเตรียมเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นที่คาดว่าจะมีขออนุมัติเพิ่มวงเงินกู้หรือออกหุ้นกู้อีกประมาณ 5 หมื่นล้านบาท เพื่อรองรับการลงทุนในอนาคต

เมื่อ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติจัดหาเงินกู้จากแหล่งภายนอกเพิ่มเติมวงเงินรวมไม่เกิน 30,000 ล้านบาท ในระยะเวลา 5 ปี(ปี 52-56)โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินกู้ดังกล่าวไปใช้ในการลงทุนตามแผนการลงทุนในอนาคตของบริษัทฯ และบริษัทในกลุ่ม และ/หรือ เพื่อจ่ายคืนเงินกู้เดิม (Refinancing)

นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทยังไม่มีแผนออกหุ้นกู้ เนื่องจากวงเงินที่จะออกหุ้นกู้เหลือเพียง 4.6 พันล้านบาท น้อยเกินไปในการเสนอขายหุ้นกู้ และบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางจัดหาเงินที่เหมาะสม

อนึ่ง บริษัทได้ออกและเสนอขายหุ้นกู้ จำนวน 1.2 หมื่นล้านบาท เมื่อต้นเดือน ธ.ค.51 ที่ผ่านมา



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ