ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (24 ก.พ.) เพราะได้รับแรงหนุนจากการที่ เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงต่อสภาคองเกรสว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอาจสิ้นสุดลงภายในปีนี้ พร้อมแสดงความเห็นว่ารัฐบาลไม่ควรฮุบกิจการธนาคารพาณิชย์เป็นสมบัติของชาติ
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่ง 236.16 จุด หรือ 3.32% แตะที่ 7,350.94 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 29.81 จุด หรือ 4.01% แตะที่ 773.14 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 54.11 จุด หรือ 3.90% แตะ 1,441.83 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.8 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 6 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.35 พันล้านหุ้น
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กคึกคึกขึ้น หลังจากเบอร์นันเก้แถลงต่อสภาคองเกรสเมื่อคืนนี้ (ตามเวลาประเทศไทย) ว่า "เศรษฐกิจสหรัฐจะยังคงถดถอยลงในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ แต่คาดว่าภาวะถดถอยสิ้นสุดลงภายในปีนี้"
เบอร์นันเก้กล่าวว่า การที่เศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้นั้นทางรัฐบาลต้องผลักดันให้ตลาดสินเชื่อและตลาดการเงินกลับมาทำงานตามกลไกปกติ และรัฐบาลจะต้องให้ความช่วยเหลือธนาคารที่ประสบปัญหา เพื่อให้ธนาคารเหล่านี้สามารถทำกำไรได้อีกครั้ง นอกจากนี้ เบอร์นันเก้ยังแสดงความเห็นว่า รัฐบาลไม่ควรฮุบกิจการธนาคารพาณิชย์มาเป็นสมบัติของชาติ เพราะจะส่งผลกระทบต่อมูลค่าของธนาคาร
"การแสดงความคิดเห็นของเบอร์นันเก้ช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลและมีความหวังว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะจบสิ้นลงอย่างแน่นอน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา วาทะในด้านบวกของเบอร์นันเก้มักช่วยกระตุ้นตลาดให้กลับมาคึกคักได้ และครั้งนี้ก็เช่นกัน" ไรอัน ลาร์สัน นักวิเคราะห์จากโวแย็กเกอร์ แอสเซท เมเนจเมนท์
นักลงทุนจับตาดูประธานาธิบดีบารัค โอบามา เตรียมใช้โอกาสในการกล่าวสุนทรพจน์ต่อประชาชนทั่วประเทศในวันเสาร์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นอย่างแน่นอน โดยโอบามากำลังถูกกดดันให้สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน แม้เขาได้ประกาศใช้มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจไป 3 ฉบับแล้วก็ตาม
นายโรเบิร์ต กิบส์ โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า ในการกล่าวสุนทรพจน์วันเสาร์นี้ โอบามาจะมุ่งเน้นเรื่องแผนเศรษฐกิจ จำนวนบ้านติดจำนองที่ถูกยึด การให้คำมั่นสัญญาว่าจะลดยอดขาดดุลงบประมาณ และการปฏิรูปกฎข้อบังคับในตลาดการเงิน
สำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 25.0 จุดในเดือนก.พ.ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดยร่วงลงจากระดับ 37.4 จุด โดยผู้บริโภคส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ภาวะเศรษฐกิจและตลาดแรงงานจะยังคงซบเซาลงไปอีกระยะหนึ่ง
หุ้นโฮม ดีโปท์พุ่งขึ้น 10.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด ขณะที่หุ้นทาร์เก็ร คอร์ป รูดลง 60 เซนต์ ปิดที่ 27.83 ดอลลาร์ และหุ้นเมซีย์พุ่งขึ้น 12%
หุ้นซิตี้กรุ๊ปพุ่งขึ้น 22% หุ้นแบงค์ ออฟ อเมริกา ดีดขึ้น 21% ส่วนหุ้นเจพีมอร์แกนพุงขึ้น 7.74% หลังจากบริษัทประกาศลดการจ่ายเงินปันผลผู้ถือหุ้นลง 87% เหลือ 5 เซนต์/หุ้น ซึ่งนับเป็นการปรับลดเงินปันผลครั้งแรกตั้งแต่ปี 2533 หุ้นไมโครซอฟท์ร่วงลง 4 เซนต์ ปิดที่ 17.17 ดอลลาร์