นายพนม ควรสถาพร กรรมการผู้จัดการ บมจ. เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) กล่าวว่า บริษัทสนใจจะเข้าเทคโอเวอร์เหมืองถ่านหินในอินโดนีเซีย แต่คงเป็นการศึกษาเพื่อกำหนดแผนธุรกิจในระยะยาวมากกว่า แม้ว่าปัจจุบันจะมีผู้ประกอบการถ่านหินในอินโดนีเซียเสนอตัวมาให้บริษัทพิจารณาแล้ว 2-3 ราย แต่บริษัทได้ปฏิเสธไปก่อน
"ยอมรับว่าสนใจที่จะเข้าเทคโอเวอร์ แต่เป็นในระยะยาวมากกว่า เพราะเรื่องซื้อง่ายแต่ยากตรงที่บริหาร และคุณภาพของถ่านหิน" นายพนม กล่าว
หุ้น AGE จะเริ่มเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ในวันพรุ่งนี้เป็นวันแรก มั่นใจว่าราคาหุ้นจะยืนเหนือราคาจอองที่ 6.50 บาทได้ เนื่องจากจำนวนหุ้นที่เข้าเทรดมีไม่มาก รวมถึงตัวเลขของผลประกอบการอยู่ในระดับที่ดี เติบโตต่อเนื่องการจ่ายปันผลที่ไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิ เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงการเติบโตและให้ความมั่นใจกับผู้ถือหุ้นได้
นอกจากนี้ ในวันที่ 27 ก.พ.จะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัท เพื่อรับรองงบการเงิน และพิจารณาการจ่ายเงินปันผลด้วย โดยคาดว่าการระดมทุนครั้งนี้จะได้เม็ดเงิน 227 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้กระแสเงินสดของบริษัทดีขึ้น
บริษัทอยู่ระหว่างการวางแผนในการขยายคลังสินค้าแห่งที่ 4 ซึ่งจะอยู่ในภาคตะวันออก คาดว่าจะเห็นได้ในช่วงปลายไตรมาส 1 โดยคลังสินค้าดังกล่าวในช่วงแรกจะเป็นลักษณะของการเช่า และในอนาคตอาจจะพิจารณาเข้าซื้อ คาดว่าจะใช้เม็ดเงินประมาณ 20-30 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการรองรับลูกค้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะโรงงานเอทานอลและโรงไฟฟ้า อีกทั้งยังทำให้ต้นทุนลดต่ำลง
นอกจากนี้ ในปีนี้มีแผนจะเพิ่มซัพพลายเออร์ที่อินโดนีเซียอีก 1-2 ราย ซึ่งจะรองรับกำลังการผลิตในปีนี้ที่จะอยู่ที่ 1 ล้านตันจาก 9 แสนตันในปีก่อน โดยมองว่าราคาถ่านหินในปีนี้น่าจะทรงตัวอย่ที่ระดับ 60-70 เหรียญสหรัฐ/ตัน
"มั่นใจว่าพรุ่งนี้ราคาหุ้นต้องเหนือจองอย่างแน่นอน เพราะภายใต้การเติบโตของบริษัทที่ต่อเนื่อง เนื่องจากมีความต้องการหุ้นมากกว่าจำนวนหุ้นที่บริษัทจัดสรร ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของผู้มีอุปการะคุณหรือนักลงทุนทั่วไป เชื่อว่าในวันพรุ่งนี้น่าจะมีคนเข้ามาซื้อเพิ่มขึ้น"นายพนม กล่าว